รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์(Master Poll) 2 ปี คสช.เปลี่ยนประเทศไทยอย่างไร? :กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,081 ตัวอย่างจากจังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
คณะผู้วิจัยได้สอบถามตัวอย่างแกนนำชุมชนถึงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 35.5 ระบุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ร้อยละ 45.8 ระบุดีเหมือนเดิม ในขณะที่ร้อยละ 7.9 ระบุแย่เหมือนเดิม และร้อยละ 10.8 ระบุแย่ลง ทั้งนี้คะแนนคุณภาพชีวิตโดยเฉลี่ยเท่ากับ 7.55 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจและเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของการสำรวจในครั้งนี้ คือการสอบถามความคิดเห็นของตัวอย่างแกนนำชุมชนที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดในการดำเนินชีวิตของคนไทย สังคมไทย และประเทศไทยโดยภาพรวมโดยพบว่าการเปลี่ยนแปลงที่เห็นว่าอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา สามลำดับแรก
ได้แก่ การรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ/การลดความแตกแยกของคนในประเทศ/ไม่มีการชุมนุม/การสร้างความปรองดอง/ประชาชนไม่มีการแบ่งฝ่าย/ความสามัคคีของคนในประเทศดีขึ้น/ไม่มีการทะเลาะกัน คิดเป็นร้อยละ 45.8 รองลงมาคือ การปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น/ปัญหาทุจริตน้อยลง/ไม่มีการทุจริต คิดเป็นร้อยละ 36.7 ระบบการทำงานของข้าราชการเป็นระบบระเบียบมากขึ้น/การปรับปรุงระบบข้าราชการ/การเปลี่ยนแปลงขององค์กรตำรวจ/การปรับปรุงโครงสร้างภาครัฐ คิดเป็นร้อยละ 12.6
ทั้งนี้ตัวอย่างแกนนำชุมชนร้อยละ 10.3 ระบุไม่มีอะไรดีขึ้น
สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เห็นว่าอยู่ในทิศทางที่แย่ลงในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา สามลำดับแรก ได้แก่ ราคาสินค้าทางการเกษตรตกต่ำ คิดเป็นร้อยละ 56.9 คุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคมแย่ลง คิดเป็นร้อยละ 44.7 และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศแย่ลง คิดเป็นร้อยละ 23.2 ตามลำดับ ทั้งนี้ตัวอย่างแกนนำชุมชนร้อยละ 42.7 ระบุไม่มีอะไรที่แย่ลง
ประเด็นสำคัญที่น่าพิจารณาคือเมื่อสอบถามถึง สิ่งที่อยากจะบอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากมีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวนั้น พบว่าตัวอย่างแกนนำชุมชนร้อยละ 70.8 ระบุขอให้นายกฯทำหน้าที่ต่อไปนานๆ/อยากให้ดำรงตำแหน่งต่อเพื่อบ้านเมือง/อยากให้ดูแลประเทศต่อไป/อยากให้บริหารงานนานๆ/ทำตามบทบาทของท่านให้ดีและมีจุดยืนที่ชัดเจนและเด็ดขาด/ ยินดีที่ท่านจะอยู่เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อพัฒนาประเทศต่อ/อยากให้นายกฯ ทำงานราบรื่น/ให้ท่านตั้งใจทำงาน/อยากให้ท่านนายกฯ เดินหน้าพัฒนาประเทศให้เต็มที่/อย่าท้อให้สู้ไปเรื่อยๆ
รองลงมาคือร้อยละ 43.8 ระบุว่า อยากให้หางานหารายได้ให้กับเกษตรกร/การประกอบอาชีพของประชาชน/อยากให้แก้ไขปัญหาการว่างงานของประชาชนเพราะแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศมากขึ้นทุกที/แก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน/แก้ไขปัญหาที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์/อยากให้ท่านรับรู้ปัญหาของเกษตรกร/อยากให้ท่านช่วยด้านเกษตรกรให้ทั่วถึง/หาอาชีพเสริมให้กับเกษตรกร/การพัฒนาด้านอาชีพ ร้อยละ 13.2 ระบุปัญหาสินค้าเกษตรราคาแพงขึ้น/เรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร/อยากให้แก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตร/อยากให้เพิ่มราคาผลผลิตทางการเกษตร/ชดเชยเรื่องผลผลิตที่เสียหาย
นอกจากนี้ ร้อยละ 11.5 ระบุอยากให้พัฒนาปัญหาแหล่งน้ำเร็วๆ/แก้ปัญหาภัยแล้ง/แก้ปัญหาแหล่งน้ำทำการเกษตร/อยากให้ท่านช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำ/อยากให้แก้ไขเรื่องอ่างเก็บน้ำเพื่อบรรเทาภัยแล้ง ร้อยละ 9.3 ระบุ อยากให้เร่งแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้โดยเร็ว ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญสุดท้ายคือเมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามถึงประเด็นสำคัญที่อยากให้นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และ คสช. ได้เร่งชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน นั้นผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่างแกนนำชุมชนร้อยละ 40.4 ระบุเร่งชี้แจงเรื่องรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชน/ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ส่วนใหญ่ประชาชนยังไม่เข้าใจ ร้อยละ 32.7 ระบุชี้แจงเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่าทำไมล่าช้า/เรื่องน้ำในการทำการเกษตร/แจกแจงเรื่องการหาแหล่งน้ำ/เรื่องน้ำในการทำการเกษตร ต้องเร่งอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ร้อยละ 20.9 ระบุชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายต่างๆให้รับทราบมากขึ้น/นโยบายการบริหารประเทศ/เรื่องการบริหารประเทศ
ร้อยละ 10.7 ระบุชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตร และ การจัดการเกษตรทั้งระบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในสัดส่วนที่เท่ากัน นอกจากนี้ ร้อยละ 9.0 ระบุสร้างความเข้าใจให้ประชาชนเห็นภาพเกี่ยวกับแนวทางประชารัฐ ร้อยละ 6.7 ระบุชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ/ชี้แจงภาพรวมของเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ตามลำดับ
ข่าวเด่น