นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงลอนดอนว่า สหราชอาณาจักรประกาศขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีรายได้ประมาณ 520 ล้านปอนด์ต่อปี เพื่อนำไปใช้ส่งเสริมการกีฬาในโรงเรียนภาษีนี้จะครอบคลุมถึงน้ำหวานน้ำอัดลม แต่ยกเว้นน้ำผลไม้แท้ และเครื่องดื่มประเภทนมโดยมีแนวโน้มที่ประเทศในยุโรปอื่นจะเก็บภาษีน้ำตาลนี้ โดยรัฐบาลจะให้เวลา 2 ปีแก่ผู้ประกอบการในการปรับตัวก่อนจะมีผลบังคับปี 2561
ทั้งนี้ เนื่องจากประชากรของสหราชอาณาจักรเป็นโรคอ้วน (Obesity) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัยเด็กส่งผลให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรต้องสูญเสียงบประมาณในการรักษาผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานและหัวใจ 5,100 ล้านปอนด์ต่อปี ดังนั้น รัฐบาลจึงแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการประกาศขึ้นภาษีเครื่องดื่มประเภทไม่มีแอลกอฮอล์ผสม (Soft Drink) อาทิ น้ำอัดลม, เครื่องดื่มชูกำลัง, น้ำผลไม้สังเคราะห์และเครื่องดื่มอัดแก๊สที่มีปริมาณน้ำตาลสูงกว่า 5 กรัมต่อปริมาณ 100 มิลลิลิตร
สหราชอาณาจักรมีการบริโภคเครื่องดื่มประเภทไม่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 14,800 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 15,700 ล้านปอนด์ หรือ 78,500 ล้านบาทต่อปี โดยร้อยละ 57 ของผู้บริโภค เลือกซื้อเครื่องดื่มประเภทแคลลอรี่น้อยหรือไม่มีแคลลอรี่ รวมถึงผู้บริโภคยังหันมาบริโภคเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำมะพร้าวมากขึ้น โดยปี 2559 ตลาดน้ำมะพร้าวในสหราชอาณาจักรมีมูลค่าประมาณ 100 ล้านปอนด์ หรือ 5,000 ล้านบาท โดยมีการคาดการณ์ว่ายังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องกว่าร้อยละ 25 ต่อปีจนถึงปี 2562
ในปี 2558 สหราชอาณาจักรนำเข้าน้ำผลไม้แท้จากไทยเป็นอันดับ 11 คิดเป็นมูลค่า 14.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 140 โดยมีการนำเข้าหลัก 3 อันดับแรกจากประเทศ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และสเปน และเป็นการนำเข้าน้ำมะพร้าวจากไทยเป็นอันดับ 1 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 595 ดังนั้น จากความนิยมในการบริโภคเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในสหราชอาณาจักรจะส่งผลดีให้เครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมะพร้าวของไทยมีโอกาสขยายตลาดนี้
.jpg)
ข่าวเด่น