บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย บรรลุข้อตกลงความร่วมมือ เชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนประวัติราษฏร จากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง ผ่านระบบออนไลน์ พร้อมร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การขอใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียนประวัติราษฏรจากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง ด้วยระบบคอมพิวเตอร์โดยวิธีเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์(Online)” มั่นใจการพัฒนาระบบฐานข้อมูล สร้างมิติใหม่สู่ความเป็นเลิศด้านบริการค้ำประกันสินเชื่อ แก่ผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ
นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) กล่าวว่า โครงการความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญ และเป็นมิติใหม่ของบสย.ในการก้าวสู่ความเป็นเลิศ ด้านการบริการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการSMEs ทั่วประเทศ อาทิ ผู้ประกอบการ SMEsรายย่อย และ กลุ่ม Start-up นวัตกรรม ให้เข้าถึงแหล่งทุนให้มากที่สุด เพื่อสนับสนุนมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการSMEsของรัฐบาล
โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ประกอบการ SMEs ลูกค้า บสย. เริ่มขึ้นในปี 2557-2558 เพื่อสำรวจการเปลี่ยนแปลงด้านที่อยู่อาศัย และอื่นๆของผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในระบบฐานข้อมูล บสย. จำนวนกว่า 150,000 ราย จากการสำรวจครั้งนั้นพบว่า ที่อยู่ลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงในอัตราสูงถึง 50% และข้อมูลลูกค้าส่วนใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ตรงกับฐานข้อมูลที่มีอยู่เดิม บสย. จึงขอความร่วมมือไปยัง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือในการอัพเดทข้อมูลให้ทันสมัย สอดรับกับแผนให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งทุน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่รัฐบาลกำลังให้ความช่วยเหลือ ผ่านกลไกค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.
“นับเป็นการยกเครื่องปรับปรุงระบบฐานข้อมูล ลูกค้า บสย.ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 20 ปี นับตั้งแต่มีการจัดตั้ง บสย. ซึ่งการปรับปรุงฐานข้อมูลนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นอย่างแน่นอน จากฐานข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงครั้งนี้ โดยการดำเนินงานจากนี้ไป คือการเชื่อมต่อระบบข้อมูลทะเบียนราษฎรกับกรมการปกครอง และจะเริ่มทดลองใช้ในไตรมาส 2 คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ดำเนินการได้จริงในไตรมาส 3 ปีนี้”
อีกประการหนึ่ง คือ เป็นการยกระดับการให้บริการ แก่ผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งปกติจะสมัครขอสินเชื่อผ่านทางธนาคาร เมื่อมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับทะเบียนราษฎรจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางแล้ว บสย. สามารถนำข้อมูลที่ได้รับจากธนาคาร มาตรวจสอบความถูกต้องกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์และทำให้กระบวนการอนุมัติการค้ำประกันสินเชื่อรวดเร็วและแม่นยำ
นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับกรมการปกครองแล้ว ทั้งสิ้น 126 หน่วยงาน
โครงการความร่วมมือครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักคือ การสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ปลดล็อกอุปสรรคและปัญหาในการให้บริการประชาชน ประกอบด้วยฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร สถิติข้อมูลและฐานข้อมูลอื่นๆ ซึ่งกรมการปกครองได้รวบรวมจัดเก็บและได้มีการปรับปรุงฐานข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ข้อมูลทันสมัย และอำนวยความสะดวกในการปฎิบัติงาน ก่อเกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเดียวกัน โดยยังช่วยลดภาระของรัฐบาลในด้านงบประมาณ
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง จะกำหนดประเภทของข้อมูลทะเบียนราษฎรที่ให้บสย.ใช้ประโยชน์ ระบบการตรวจสอบข้อมูล การวางระบบควบคุมรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคล และการกำหนดชั้นความลับของข้อมูล เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
ข่าวเด่น