ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX แกว่งในกรอบแคบเช่นเดียวกับวันศุกร์ที่แล้ว 1,400 จุด +/- อีกทั้งผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น BIGC / INTUCH / SCC ราว 3 จุด สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,400.27 จุด ลบ 0.45 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,057 ล้านบาท
ต่างชาติเริ่มขายทำกำไรตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เพียง 928 ล้านบาท Short สุทธิใน EST50 Index Ftures จำนวน 3,917 สัญญา แต่คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 6 มากถึง 11,359 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ติดตามการประชุมครม. กับการรับทราบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
- การขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น KBANK วันนี้ 3.50 บาท มีผลกระทบต่อ SET INDEX เท่ากับ 0.88 จุด
- ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย
- ผลตอบแทนพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ที่ 1.552%
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันแรกในรอบ 4 วันทำการ)
เรายังคงประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,390-1,410 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เพราะเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย ทำให้นักลงทุนภายในประเทศชะลอการลงทุนมากขึ้น
สำหรับการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยของต่างชาติวานนี้ ถือว่าเป็นเพียงเล็กน้อย เราคาดว่าต่างชาติทยอยลดน้ำหนักกลุ่ม ICT เป็นสำคัญ หลังแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1Q59 อ่อนแอ และจะลดลง qoq ต่อเนื่องไปอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้า อีกทั้งสิ้นสุดการขึ้นเครื่องหมาย XD
เรามองว่าเม็ดเงินสถาบันทั้งในและต่างประเทศ จะเลือกให้น้ำหนักกับกลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร ที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาสะท้อนความเสี่ยงที่กนง.ส่งสัญญาณพร้อมลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในปีนี้ / กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มท่องเที่ยว / กลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่น่าจะตอบรับเชิงบวกต่อการประชุมครม.วันนี้ เพื่อรับทราบแบบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มใหม่ ซึ่งโครงการนี้มี CK และ ITD เป็นหุ้นที่มีโอกาสชนะงานสายนี้
Stock Pick of The Day
1. ITD : ราคาปิด 7.60 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น ITD จะตอบรับเชิงบวกจากความคืบหน้าของโครงการเหมืองแร่โปรแตซ จ.อุดรธานี หลังคณะกรรมการฯมีมติกำหนดวันประชาพิจารณ์รอบสุดท้าย ในวันที่ 23 เม.ย. เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียและให้ทุกภาคส่วนเข้าชี้แจง
b) หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมี Momentum บวก จากการประชุมครม.ในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีการอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขณะที่โครงการรถไฟฟ้ารางคู่ คาดว่ารฟท.จะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา และนำเสนอเข้าสู่ครม.เป็นลำดับถัดไปภายในเดือน เม.ย.
c) ให้เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจาก Upside สูงสุด และมูลค่าของโครงการเหมืองแร่โปรแตซเฉพาะโครงการอุดรใต้ คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น ITD แบบ Conservative ไม่ต่ำกว่า 5.00 บาทต่อหุ้น
2. ERW : ราคาปิด 4.68 บาท ราคาเหมาะสม 4.80 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มโรงแรมจะ Outperform ตลาดในเดือน เม.ย. เนื่องจากได้อานิสงค์เชิงบวก จากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวและวันหยุดยาว
b) ERW ได้ประโยชน์โดยตรงจาก 2 มาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐฯ ที่ให้นำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว และอาหาร อย่างละ 15,000 บาท นำมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2559 ได้
c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโตสูงถึง +100% yoy เป็น 394 ล้านบาท และแผนการจัดตั้งกอง REIT เป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาซื้อสุทธิ US$50 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิเพียง US$11 ล้าน Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนเริ่มทำกำไรในตลาดหุ้นบางส่วน
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เพียง 928 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 15,419 ล้านบาท ทำให้ยอด YTD ซื้อสุทธิยังคงยืนเหนือ 20,000 ล้านบาท เป็น 22,070 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิอีกครั้ง 3,917 สัญญา น่าจะเป็นการปิดสถานะ Long เมื่อ S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเป็นวันที่ 3 เหลือเพียง 2.72 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 5.44 จุด ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็น 1,388 สัญญา
แต่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 หนาแน่นถึง 11,359 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิ 52,393 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 12,464 ล้านบาท ผลักดันให้ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวขึ้นเด่นต่อเนื่อง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 6 มากถึง 7.74bps ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าที่ลดลง 8.49bps ปิดที่ 1.552%Short-Selling วานนี้ ลดลงเป็นวันที่ 2 เหลือ 655 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 725 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เน้นลดน้ำหนัก AOT
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 130 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 12,852 ล้านบาท ทั้งนี้เน้นลดน้ำหนักกลุ่มขนส่งเป็นสำคัญ ขณะที่ซื้อกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มหลัก
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
- คำสั่งซื้อโรงงาน เดือนก.พ. หดตัว 1.7% mom ใกล้เคียงกับ Bloomberg consenus คาด -1.6% mom แต่สวนทางกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.2% mom โดยคำสั่งซื้อที่ไม่ใช่สินค้าคงทนลดลง 0.4% mom จากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และถ่านหิน
ยุโรป
อัตราการว่างงานในอียูทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554: เดือนก.พ. เท่ากับ 10.3% ลดลงจากเดือนม.ค.ที่ 10.4% สอดคล้องกับ Bloomberg consensus คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานยังคงยืนเหนือ 10% มากว่า 6 ปี โดยการว่างงานในเยอรมัน ทรงตัวที่ 4.3% ขณะที่สเปน อัตราการว่างงานสูงถึง 20.4%
กรีซยังไม่สามารถดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างหนี้: ECB รายงานหนี้ที่จะครบกำหนดในเดือนมิ.ย. และก.ค.กว่า 1.0 หมื่นล้านยูโร ทั้งส่วนของดอกเบี้ยจ่ายและเงินต้นบางส่วน ซึ่งกรีซ เปิดการเจรจากับทางเจ้าหนี้คือ EC และ IMF แล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่เจ้าหนี้กำหนด ทั้งส่วนของกองทุนบำเหน็จบำนาญ โครงสร้างภาษี และเป้าหมายงบประมาณ
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
สมคิด เตรียมชงเรื่องให้นายกฯ กับท่าที TPP: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงความคืบหน้าการพิจารณาเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ของไทย ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้ชี้แจงว่าขณะนี้ผลการศึกษาของสถาบันปัญญาภิวัฒน์ได้ระบุว่าไทยน่าจะเข้าร่วมมากกว่าไม่เข้า และจะเป็นประโยชน์กับไทยมากกว่า แต่ได้ให้นโยบายขอให้ศึกษาในรายละเอียดในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบว่ามีผลกระทบยังไง จะเยียวยายังไง เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ขอให้จัดทำข้อสรุปเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณาในวันที่ 29 เม.ย.2559
กกร.คงเป้า GDP ปีนี้โต 3.0-3.5%: คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน คาดการส่งออกในปี 2559 ขยายตัวได้ที่ 0.0-2.0% ต่ำกว่าจากเดิมคาดการณ์เป็นบวกอ่อนๆ ที่ 2.0% สอดคล้องกับทิศทางที่ชะลอลงของการค้าโลก อย่างไรก็ดี แรงหนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐผ่านงบประมาณกลางปี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐทยอยประกาศออกมา รวมทั้งการเร่งรัดผลักดันแผนลงทุนในเมกะโปรเจกต์ และแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว ทำให้ กกร. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2559 ยังคงขยายตัวได้ในกรอบประมาณการณ์เดิมที่ 3.0-3.5% ภายใต้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในระดับต่ำ เฉลี่ยที่ 0.0-1.0%
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 5 เม.ย. 2559
ข่าวเด่น