นายสุพจน์ เหล่าสุอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักกฎหมาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่คณะอนุญาโตตุลาการ ได้มีคำชี้ขาดฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2559 ในข้อพิพาท หมายเลขดำที่ 114/2552 ระหว่าง บริษัท อาร์พีซีจี จำกัด (มหาชน) (RPC) ผู้เรียกร้อง กับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)ผู้คัดค้าน โดย RPC เรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 29,000 ล้านบาท ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมากเห็นว่าปตท. บอกเลิกสัญญากับ RPC โดยไม่ถูกต้องตามวิธีการที่สัญญากำหนด จึงมีคำชี้ขาดให้ ปตท. จ่ายค่าเสียหายให้แก่ RPC เป็นรายปีๆ ละ 390 ล้านบาท นับแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงวันที่มีคำชี้ขาด คือ 25 มีนาคม 2559 คิดเป็นเงินจำนวน 1,560 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่มีคำชี้ขาด นั้น
ปตท. ขอเรียนชี้แจงว่า คำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวน่าจะยังมีความคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ปตท. จึงไม่อาจเห็นพ้องด้วยกับคำชี้ขาดดังกล่าวได้ ประกอบกับคณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ ปตท. จึงจะใช้สิทธิตามกฎหมายในการยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดภายในระยะเวลาโดย ปตท. อยู่ระหว่างประสานงานกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ ปตท. ยังได้เสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการกับ RPC เป็นอีกคดีหนึ่ง เรียกร้องค่าผลิตภัณฑ์พร้อมดอกเบี้ยที่ RPC ค้างชำระกับ ปตท. รวมเป็นจำนวนประมาณ 2,000 ล้านบาทเศษ ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ
"ปตท. มั่นใจว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องครบถ้วนตามข้อกำหนดของสัญญา และไม่มีเจตนาสร้างความเสียหายให้แก่คู่ค้าแต่อย่างใด" นายสุพจน์ กล่าว
ข่าวเด่น