บล.แอพเพิล เวลธ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือนเม.ย. มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,450 จุด ได้ อานิสงส์ Fund Flow ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังเฟดชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย-อีซีบีผ่อนคลายนโยบายการเงิน แนะลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์– ท่องเที่ยว – รับเหมาฯ ชู BBL- SCB - AOT-AAV - ERW - CENTEL- ROBINS- HMPRO -ITD - CK- STEC- UNIQ รอขายบริเวณ แนวต้าน 1,430– 1,450 จุด
นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือน เม.ย.นี้ ยังมีปัจจัยบวกจาก Fund Flows ต่างชาติ และหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวยังรอการขึ้น XD ซึ่งมีโอกาสที่จะสนับสนุนดัชนีฯ ขึ้นทำจุดสูงสุดในนี้ค่อนข้างสูง โดยฝ่ายวิจัยประเมิน กรณี Best Case ระดับดัชนี SET ที่ระดับ 1,450 จุด ( Forward P/E 15.5 เท่า ) แนวรับที่ระดับ 1,360 จุด ( Forward P/E 14.50 เท่า ) ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามในเดือน เม.ย. นี้ คือ การประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ขณะที่ปัจจัยบวกในประเทศ คือ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 3 และการเริ่มต้นดำเนินการประมูลโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ
"ECB มีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ระดับ -0.4% และขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์เป็น 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ส่วนทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นเพียง 2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ Fund Flows ยังไหลเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้นเกิดใหม่ "นายอภิชัยกล่าว
นายอภิชัย กล่าวด้วยว่า ภาวะการซื้อขายตั้งแต่ต้นจนถึงปลายเดือน มี.ค.ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย 1.89 หมื่นล้านบาท หลังจากปีก่อนขายสุทธิหุ้นไทย 1.5 แสนล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกรณีที่เฟดอาจจะยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้เม็ดเงินเริ่มไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ประกอบกับทิศทางการเมืองไทยเริ่มเห็นสัญญาณบวกการผ่านร่างรัฐธรรมนูญ , การทำประชามติตามโรดแมปเลือกตั้งปี 60 น่าจะส่งผลบวกต่อความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้ามาซื้อสะสมหุ้นไทยอีกครั้ง จากระดับดัชนี SETปัจจุบันบริเวณ 1,400 จุด คิดเป็นระดับ Forward P/E 15 เท่า แต่ยังต่ำกว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอินโดนีเซียและตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ระดับ 16.50 เท่า, 18.3 เท่า ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อเก็งกำไร BBL- SCB เมื่อราคาอ่อนตัวก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD จากสถิติข้อมูล ตั้งแต่ปี 2012 - 2015 หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มักให้ผลตอบแทนส่วนต่างกำไร (Capital Gain) วันสุดท้ายก่อนขึ้น XD สูงกว่าค่าถัวเฉลี่ยราคาหลังจากมีมติ XD โดย BBL ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.3% และ SCB ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.1%, และซื้อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีกที่ได้รับปัจจัยบวกมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น AOT-AAV - ERW - CENTEL- ROBINS- HMPRO และซื้อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ITD - CK- STEC- UNIQ รับข่าวงานประมูลภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม หากดัชนี SET ปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน 1,430 – 1,450 จุด แนะนำเริ่มทยอยขายทำกำไร เนื่องจาก สถิติดัชนี SET มักจะปรับฐานหลังจากผ่านฤดูกาลจ่ายปันผลในเดือน เม.ย. นั้นส่งผลให้เนื่องจากทิศทางตลาดอาจจะอ่อนตัวลงหลังจากการจ่ายปันผล
ข่าวเด่น