วันนี้ (7 เม.ย.) ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ได้พิจารณาแล้วเสร็จ มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานในการประชุม
ที่ประชุมเปิดโอกาสให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น โดยสมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายท้วงติงเนื้อหาในมาตรา 7 ถึงกรณีที่กมธ.แก้ไขหลักการตามร่างกฎหมายเดิม โดยตัดคำว่า “รณรงค์” ในการออกเสียงร่างรัฐธรรมนูญทิ้งไป ทำให้ไม่สามารถแสดงความเห็นรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญได้ ทั้งที่เป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต ถือเป็นการละเมิดสิทธิประชาชนในการแสดงความคิดเห็น
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า อยากทราบเหตุผลว่าทำไมต้องตัดคำดังกล่าวทิ้งไป เช่น การส่งไลน์ไปตามกลุ่มเพื่อบอกว่า ตนจะรับร่างหรือไม่รับ น่าจะถือเป็นการรณรงค์แบบหนึ่งเป็นเสรีภาพ ควรต้องมีความชัดเจนในการแสดงความคิดเห็นหรือหลักการรณรงค์ เพราะโทษถึงติดคุกได้ หากมีการรณรงค์และสุจริตไม่ขัดหลักกฎหมายก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ทั้งนี้สมาชิกสนช.หลายคนยืนยันไม่เห็นด้วยกับเนื้อหามาตรานี้ ทำให้ที่ประชุมต้องแขวนมาตรา 7 ไว้ เพื่อพิจารณามาตราอื่นก่อน จากนั้นนายพรเพชรสั่งพักการประชุม เพื่อหารือแก้ไขเนื้อหามาตราที่ยังมีปัญหา
จากนั้น สนช.เปิดการประชุมอีกครั้ง โดยกมธ.ได้แจ้งว่า ยินยอมแก้ไขข้อความในมาตรา 7 จากเดิมที่ระบุว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงโดยสุจริตและไม่ขัดต่อกฎหมาย” เป็น “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงโดยสุจริตและไม่ขัดต่อกฎหมาย” เพื่อให้บุคคลสามารถเผยแพร่ความคิดเห็นของตนเองที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องเป็นไปโดยสุจริตและไม่ขัดกฎหมาย
หลังจากที่ประชุมอภิปรายวาระ 2 เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 ด้วยคะแนน 171 ต่อ 1 งดออกเสียง 3 เสียง ให้พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยสนช.ใช้เวลาพิจารณานาน6ชั่วโมง
ข่าวเด่น