ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยแพร่รายงานรายละเอียดเรื่องการจ่ายภาษีของนายกรัฐมนตรี'เดวิด คาเมรอน' นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศ เมื่อปี 2553 ซึ่งปกติแล้วข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่จะเก็บรักษาเอาไว้เป็นความลับส่วนตัว
โดยรายละเอียดสำคัญรวมถึง คาเมรอนได้รับมรดกเป็นเงิน 300,000 ปอนด์ในปี2010จากบิดาคือนายเอียน ซึ่งถึงแก่กรรมเพียงไม่กี่เดือนก่อนบุตรชายได้เป็นนายกรัฐมนตรี และเงินเป็นของขวัญอีก 200,000 ปอนด์ จากมารดา คือนางแมรี เฟลอร์ วัย 82 ปีซึ่งคาเมรอนได้รับจากมารดาของเขาในปี 2011
ทั้งนี้ในเอกสารที่เปิดเผยโดยทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อ10เม.ย.ที่ผ่านมา โดยที่มีบริษัทสอบบัญชีรับอนุญาตรับรอง แสดงให้เห็นว่า คาเมรอนได้ชำระภาษีเป็นจำนวน 75,898 ปอนด์ จากรายได้จำนวน 200,307 ปอนด์ ในปีภาษี 2014-15 ซึ่งเป็นปีล่าสุดที่มีการเปิดเผยข้อมูล
เอกสารของทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า นายคาเมรอนและภรรยาคือนางซาแมนธา ได้กำไรร่วมกัน 19,000 ปอนด์ จากการขายหุ้นในแบลร์มอร์ เมื่อปี 2553 โดย 9,501 ปอนด์ เป็นกำไรในชื่อผู้นำอังกฤษ ซึ่งยังไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของฐานภาษี คือ 10,100 ปอนด์ ต่อมาระหว่างปี 2557-2558 นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีรายได้ 200,307 ปอนด์ และจ่ายภาษีในช่วงระหว่างนั้นรวม 75,898 ปอนด์ โดยมีเงินได้อีก 46,899 ปอนด์ จากการถือหุ้นครึ่งหนึ่งของที่ดินของครอบครัวที่ย่านน็อตติง ฮิลล์ ในกรุงลอนดอน และได้รับดอกเบี้ยอีก 3,052 ปอนด์ จากเงินฝากที่ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุว่า เงินทั้งหมดที่คาเมรอนได้รับจากบิดามารดา คือผลประโยชน์ที่ครอบครัวคาเมรอนได้รับจาก "แบลร์มอร์ โฮลดิงส์" กองทุนนอกอาณาเขตจดทะเบียนในบาฮามาสโดยนายเอียน เมื่อปี 2525 หรือไม่
รายงานดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังนายคาเมรอนกล่าวต่อที่ประชุมพรรคอนุรักษ์นิยมเมื่อวันเสาร์ ยอมรับความผิดพลาดทุกอย่างที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว
อนึ่งข้อมูลลับตามเอกสาร “ปานามา เปเปอร์ส” บิดาผู้ล่วงลับของคาเมรอนได้ไปจัดตั้งกองทุนขึ้นในดินแดนออฟชอร์ซึ่งเป็นที่นิยมใช้เป็นที่หลบเลี่ยงภาษี โดยนายเอียน คาเมรอน บิดาของเขาเป็นเจ้าของกองทุนนอกอาณาเขตแบลร์มอร์ โฮลดิ้งส์และมีรายได้จากขายหน่วยการลงทุน และมีความเชื่อมโยงบริษัทมอสแซค ฟอนเซกา ที่ปรึกษาด้านกฎหมายในปานามา ที่แนะนำให้ลูกค้าจัดตั้งบริษัทหรือกองทุนนอกอาณาเขตเพื่อหลบเลี่ยงภาษี
ข่าวเด่น