ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 6% จากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ลดลงมากสุดในรอบ 3 เดือน และการปิดซ่อมท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 11 เม.ย.2559
+ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 6% จากแรงหนุนของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น โดนก่อนหน้านี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (สิ้นสุด ณ วันที่ 1 เม.ย.) ปรับลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน สู่ระดับ 529.9 ล้านบาร์เรล โดยเป็นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกำลังการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ประจำไตรมาส 2 รวมถึงปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่น้อยลง
+ นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงสนับสนุนจากการปิดซ่อมฉุกเฉินของท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ที่มีกำลังการขนส่งน้ำมันดิบที่ 590,000 บาร์เรลต่อวัน ไปยังจุดส่งมอบน้ำมันดิบ คุชชิ่ง โอกลาโฮมา โดยการปิดซ่อมดังกล่าวส่งผลกระทบให้กำลังการขนส่งน้ำมันดิบผ่านท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone สู่จุดส่งมอบคุชชิ่ง ปรับลดลงราว 480,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี การขนส่งน้ำมันดิบผ่านท่อ Keystone ได้กลับมาดำเนินการตามปกติในวันเสาร์ (9 เม.ย.)
+ แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับกระทรวงพลังงานของรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียอาจลดลงจากระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 30 ปี ที่ 10.91 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน มี.ค สู่ระดับ 10.84 – 10.86 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดน้ำมันดิบก่อนเริ่มการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันดิบเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบในวันที่ 17 เม.ย. ที่จะถึงนี้ ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ (สิ้นสุด ณ วันที่ 8 เม.ย.) ปรับลดลงกว่า 8 แท่น จากสัปดาห์ก่อนหน้า เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน สู่ระดับ 354 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 52 เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ชะลอกำลังการขุดเจาะและผลิตน้ำมันดิบลง หลังจากประสบกับภาวะขาดทุนจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์จากมาเลเซียและสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการสำรองน้ำมันเบนซินล่วงหน้าจากอินโดนีเซียก่อนเข้าสู่ฤดูกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมในเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงประสบกับอุปทานที่ล้นตลาด ซึ่งสะท้อนได้จากปริมาณน้ำมันเบนซินในคงคลังของสิงคโปร์ สหรัฐฯ และยุโรป ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากอุปทานที่ยังคงตึงตัวในช่วงฤดูปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ส่งผลให้มีการส่งออกจากภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียเหนือเข้ามาสู่ตลาดสิงคโปร์น้อยลง นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันดีเซลจากเวียดนามที่เพิ่มขึ้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาด
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 36-42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 38-44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมผู้ผลิตน้ำมันดิบทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกรวม 15 ประเทศ ในวันที่ 17 เม.ย. นี้ ณ เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับเดียวกับ ม.ค. 59 และรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงและลดแรงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เดือน มี.ค.ระบุว่า Fed ยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ตลาดลดการคาดการณ์ลงว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี
ข่าวเด่น