กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และกองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตรวจสอบความพร้อมของรถแท็กซี่และตรวจสอบสารเสพติดในพนักงานขับรถ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559
วันนี้ (11 เมษายน 2559) เวลา 09.00 น. ณ บริเวณลานจอดแท็กซี่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ ผู้แทนสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและผู้แทนกองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการ ตรวจสภาพความพร้อมของรถแท็กซี่ พร้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตรวจสอบสารเสพติดในพนักงานขับรถแท็กซี่อย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 เพื่อสร้างความมั่นใจในการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความต้องการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ เป็นจำนวนมาก กรมการขนส่งทางบกได้สั่งการให้กองตรวจการขนส่งทางบก จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สถานีขนส่งผู้โดยสาร รวมถึงท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในทุกๆ ด้าน และเพื่อมอบความมั่นใจให้กับประชาชน ในการใช้บริการรถแท็กซี่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 มากยิ่งขึ้น กรมการขนส่งทางบก บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทหาร ตำรวจ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และตำรวจท่องเที่ยว จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบสารเสพติดในพนักงานขับรถแท็กซี่ ตรวจสอบความพร้อมของตัวรถและกำชับมาตรการเข้มงวดตรวจสอบการให้บริการที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ เช่น การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลงไว้ ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร และเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกินที่ทางราชการกำหนด หากตรวจสอบพบให้ลงโทษในอัตราโทษสูงสุด และส่งตัวเข้ารับการอบรมเพื่อสร้างจิตสำนึกการให้บริการที่ดี
โดยผลการตรวจสอบการให้บริการรถแท็กซี่ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในรอบ 6 เดือน (ตุลาคม 2558 – มีนาคม 2559) พบรถแท็กซี่กระทำความผิดรวม 836 ราย ส่วนใหญ่เป็นความผิดเกี่ยวกับสภาพตัวรถไม่พร้อม ไม่ตรวจรอบมิเตอร์ตามระยะเวลาที่กำหนด มีเพียง 26 ราย ที่ฝ่าฝืนไม่ใช้มาตรมิเตอร์ และอีก 16 ราย กระทำความผิดฐานปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ซึ่งได้ดำเนินการลงโทษตามข้อหาความผิดแล้วทุกราย
นายจิรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2559 กรมการขนส่งทางบกตั้งเป้าลดจำนวนอุบัติเหตุของรถโดยสารสาธารณะที่มีสาเหตุอันเนื่องมาจากตัวรถหรือผู้ขับรถให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด โดยเน้นมาตรการพนักงานขับรถทุกคน “ไร้สารเสพติด แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” ซึ่งจะมีการตรวจสอบพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง หากตรวจสอบพบให้เปลี่ยนพนักงานขับรถทันที และกรณีตรวจพบขณะปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนผู้ประกอบการขนส่งมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาทด้วย ทั้งนี้ หากตรวจพบเสพสารเสพติด ห้ามขับรถและให้เปลี่ยนพนักงานขับรถ พร้อมส่งตัวให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษอย่างเคร่งครัดทันที หากประชาชนพบเห็นรถแท็กซี่ไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสาร แจ้งเบาะแสยาเสพติด แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะและรับเรื่องร้องเรียนสายด่วน 1584 ศูนย์ฯ เฉพาะกิจในช่วงเทศกาล ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวเด่น