กทม. จัดงานเทศกาลสงกรานต์วิถีไทย สืบสานประเพณีไทยในวัด 12-14 เม.ย. 59 ณ ท้องสนามหลวง ร่วมสักการะพระพุทธสิงห์ พิธีทำน้ำมนต์รัตนโกสินทร์ 234 ตักบาตรพระสงฆ์ สวดมนต์ข้ามปี และสนุกกับกิจกรรมการแสดงและการเล่นสืบสานประเพณีสงกรานต์ เข้มข้นมาตรการดูแลความปลอดภัยทางถนน บ้านเรือน พร้อมคุมเข้มมาตรการ 5 ป พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และร่วมกันสร้างสำนึกวินัยจราจร เพื่อประชาชนเล่นน้ำปลอดภัยและลดอุบัติเหตุสงกรานต์ 2559
สงกรานต์ 2559 เน้นใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า พร้อมเข้มมาตรการ 5 ป เที่ยวสงกรานต์สนุกและปลอดภัย
กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดงานเทศกาลสงกรานต์วิถีไทย สืบสานประเพณีไทยในวัด ระหว่างวันที่ 12-14 เม.ย. 59 ณ ท้องสนามหลวง พร้อมกันนี้สำนักงานเขต 50 แห่งของกทม. ยังได้ร่วมกับวัดในพื้นที่จัดงานประเพณีสงกรานต์ในวัด อย่างน้อยเขตละ 1 วัด เพื่อร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์แบบไทย โดยมีกิจกรรม อาทิ ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ ทำบุญกระดูกเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ เป็นต้น โดยในปี 2559 กทม. ได้รณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันประหยัดน้ำและเล่นน้ำสงกรานต์อย่างรู้คุณค่าในช่วงวิกฤตภัยแล้ง โดยให้คำนึงถึงประเพณีสงกรานต์แบบไทย ซึ่งเน้นการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย การแสดงความกตัญญูต่อบิดามารดา การรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ การทำบุญและอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ เป็นต้น นอกจากนี้ กทม. ได้กำหนดมาตรการ 5 ป ได้แก่ ปลอดแอลกอฮอล์ ปลอดโป๊ ปลอดปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่ ปลอดแป้ง และประหยัดน้ำ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ รวมถึงเป็นการลดอุบัติเหตุจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้วย
อัญเชิญสักการะพระพุทธสิหิงค์ ให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำ ณ สนามหลวง 12-14 เม.ย. 59
วันที่ 12 เม.ย. 59 เวลา 08.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ จากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อไปประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยขบวนบุปผชาติอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จะเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางต่างๆ และจอดให้ประชาชนได้สรงน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ จุดที่ 1 เวลา 10.00 น. บริเวณวงเวียนใหญ่ จุดที่ 2 เวลา 13.00 น. ณ สวนสันติชัยปราการ และจุดที่ 3 เวลา 15.00 น. บริเวณหน้าวัดชนะสงคราม ถ.ข้าวสาร จากนั้นในเวลา 16.00 น. อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ขึ้นประดิษฐานบนมณฑปบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำ จนถึงวันที่ 14 เม.ย.เวลา 20.00 น.
ร่วมพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์ “รัตนโกสินทร์ 234” ณ สนามหลวง
ในวันเดียวกัน (12 เม.ย.) เวลา 17.30 น. กทม. ได้จัดให้มีพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ และพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์รัตนโกสินทร์ 234 โดยพระพรหมมังคลาจารย์ (ท่านเจ้าคุณธงชัย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร พระราชาคณะอีกจำนวน 9 รูป พร้อมด้วยพระสงฆ์และเกจิอาจารย์ จำนวน 8 รูป ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ตามบทสวด 7 ตำนาน และ 12 ตำนาน ซึ่งมีชื่อเดิมว่า “พระปริตร” แปลว่า “เครื่องคุ้มครอง” เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นปีใหม่ไทย ซึ่งจะนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนในสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย วันที่ 13 เม.ย. 59 ในเวลาประมาณ 21.00 น.ต่อไป
สำหรับน้ำมนต์ที่ใช้ประกอบพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์ “รัตนโกสินทร์ 234” เนื่องในวาระเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 234 ปี และวาระสงกรานต์ปีใหม่ไทย พุทธศักราช 2559 นำมาจาก 5 สถานที่สำคัญ ประกอบด้วย 1. น้ำพระพุทธมนต์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมหาราชวัง 2. น้ำพระพุทธมนต์จากวัดไตรมิตรวิทยาราม พระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) น้ำมนต์พระจันทร์หรือน้ำมนต์จันทร์เพ็ญประกอบพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 57 หรือในคืนวันเพ็ญเดือน 12 3. น้ำพระพุทธมนต์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร น้ำมนต์ 200 ปี ทำพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ในช่วง กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น 4. น้ำพระพุทธมนต์ศาลหลักเมือง ประกอบพิธีปลุกเสกในวันครบรอบวันก่อรากหลักเมือง 5. น้ำเทพมนต์จากเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ซึ่งทำพิธีปลุกเสกในพระราชพิธีตรียัมปวาย ระหว่างขึ้น 6 ค่ำ ถึงแรม 6 ค่ำ เดือน 2
13 เม.ย. ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ 190 รูป และสวดมนต์ก้าวสู่ปีใหม่ไทย ณ ท้องสนามหลวง
วันที่ 13 เม.ย. 59 เวลา 07.00 น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีตักบาตรอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 190 รูป เนื่องในวันมหาสงกรานต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ไทย และจัดพิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุและศิลปินแห่งชาติ เพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้สูงอายุและผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศและกรุงเทพมหานคร
จากนั้นในช่วงค่ำตั้งแต่เวลา 20.36 น. พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต และคณะสงฆ์ 90 รูป นำผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกทม. และประชาชน เจริญพระพุทธมนต์และสวดมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ พร้อมกับเถลิงศักราชใหม่ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ไทย ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นพิธีสวดมนต์ข้ามปีแล้ว เวลาประมาณ 21.00 น. กทม. ได้นำน้ำพระพุทธมนต์รัตนโกสินทร์ 234 ปี จำนวน 200,000 หลอด ซึ่งได้รับการปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 59 แจกจ่ายให้แก่ประชาชนเพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ไทยด้วย
สืบสานประเพณีไทย ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และกิจกรรมบันเทิง
นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 12-14 เม.ย. บริเวณท้องสนามหลวงยังมีกิจกรรม อีกมากมาย อาทิ สักการะ ขอพร และสรงน้ำพระพุทธรูปจำลองจาก 9 วัด เพื่อความเป็นมงคลในการดำเนินชีวิต และการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย โดยระหว่างเวลา 16.00-21.00 น. มีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและประเพณีแบบไทย อาทิ ลานวัฒนธรรมและกิจกรรมการสาธิตการแสดงจากชุมชนของกรุงเทพมหานคร ลานก่อเจดีย์ทราย หมู่บ้านวิถีไทย ตลาดโบราณและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน 50 เขต การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย การละเล่น และกีฬาพื้นบ้าน เช่น กระตั้วแทงเสือ ลิเก รำวง แตรวง เป็นต้น
สร้างวินัยจราจร “ไม่ขับเร็ว ไม่ตัดหน้า ไม่ฝ่าไฟแดง” พร้อมกำหนดโซนนิ่งสถานที่จัดงานไร้แอลกอฮอล์
ในปี 2559 กรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับมูลนิธิเมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน รณรงค์เสริมสร้างวินัยและจิตสำนึกของประชาชนเพื่อลดอุบัติเหตุภายใต้โครงการ “ไม่ขับเร็ว ไม่ตัดหน้า ไม่ฝ่าไฟแดง” และ “เมาไม่ขับ กลับแท็กซี่” อีกทั้งประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และผู้เกี่ยวข้องในการควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะเร่ขาย ในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และกำหนดพื้นที่ควบคุม (Zoning) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่จัดงานสงกรานต์ทุกแห่งต้องปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จริงจัง เช่น ถนนสีลม ถนนข้าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 59 มีการจัดตั้งจุดตรวจร่วม/ด่านตรวจร่วม บนถนนสายหลัก สายรอง โดยกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนมากเกิดจากผู้ขับขี่รถไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ขับรถเร็ว แซงในที่คับขัน ขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ฝ่าไฟแดง เมาแล้วขับ ไม่เอื้ออาทรในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ประกอบกับผู้เดินถนนข้ามถนนไม่ระมัดระวัง ขาดจิตสำนึกถึงความปลอดภัยและขาดวินัยจราจร ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2558 เกิดอุบัติทางถนนในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมจำนวน 27 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 23 ราย และเสียชีวิต 10 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ถึง 7 ราย ซึ่งจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ได้แก่ บริเวณทางตรง 16 ครั้ง ทางแยก 7 ครั้ง และทางโค้ง 3 ครั้ง
ตั้งจุดบริการประชาชนฟรี พร้อมบริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ สร้างความอุ่นใจการเดินทาง
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และทีมกู้ชีวิต ตั้งจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 59 ใน 6 พื้นที่เขต ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า-ออกกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยการเดินทาง ประกอบด้วย เขตดอนเมือง บริเวณคลังน้ำมัน ถนนวิภาวดี ฝั่งขาออก เขตบางนา บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ริมถนนบางนา-ตราด เยื้องตึกเนชั่น เขตบางขุนเทียน บริเวณปั๊มน้ำมันเชลล์ ถ.พระราม 2 ฝั่งขาออก และปั๊มน้ำมัน ปตท. ถ.พระราม 2 (ฝั่งขาเข้า) เขตทวีวัฒนา บริเวณหน้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาพุทธมณฑล ถ.บรมราชชนนี (ขาเข้า) และบริเวณปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ แยกฉิมพลี ถ.บรมราชชนนี (ขาออก) ทางคู่ขนานด้านใน เขตหนองแขม บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองแขม เขตหนองจอก บริเวณสะพานเข้าสนามฟุตซอล บางกอกอารีน่า ทางยกระดับสุวินทวงศ์ (ขาออก)
สำหรับประชาชนที่สัญจรผ่านจุดดังกล่าวแวะเข้าไปพักหรือใช้บริการในจุดบริการที่กทม. จัดเตรียมไว้โดยไม่คิดค่าบริการ อาทิ น้ำเย็น ผ้าเย็น กาแฟ ลูกอม นอกจากนี้ยังบริการตรวจซ่อมรถที่มีปัญหา และเคลื่อนย้ายรถ รวมถึงหน่วยซ่อมเคลื่อนที่เร็ว โดยกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง และสำนักการโยธา มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยคอยให้ความช่วยเหลือประชาชน และหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมเวชภัณฑ์และรถพยาบาล จากสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจ ตำรวจ และ อปพร. ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมกันนี้กทม.ยังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ขับขี่รถโดยสาร รถขนส่ง รถกะบะ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงสงกรานต์
เพิ่มจุดเฝ้าระวังเพลิงไหม้ พร้อมย้ำประชาชนตรวจความเรียบร้อยในอาคารและบ้านเรือนก่อนเที่ยวสงกรานต์
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2559 ณ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ถ.พระราม 6 เขตราชเทวี พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ดับเพลิงเพื่อเฝ้าระวังเหตุเพลิงไหม้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ สถานีดับเพลิงหลัก 35 แห่ง สถานีดับเพลิงย่อย 12 แห่ง อีกทั้งได้เพิ่มเติมจุดเฝ้าระวังอีก 37 จุด ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย. 59 โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณสถานที่จัดงานสงกรานต์ อาทิ บริเวณถนนข้าวสาร ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ สวนลุมพินี ไนซ์บาร์ซ่า อาร์ซีเอ และวงเวียนโอเดียน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในกรณีเกิดเหตุสาธารณภัยได้ทันท่วงที ซึ่งประชาชนสามารถแจ้งเหตุเพลิงไหม้ได้ที่ สายด่วนโทร.199
พร้อมกันนี้กรุงเทพมหานครขอให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและหลีกเลี่ยงอันตรายจากการเกิดอัคคีภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟภายในบ้านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ปิดสวิทช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน ถ้าพบมีการชำรุดต้องซ่อมทันที ดับธูปเทียนก่อนเข้านอนหรือออกจากบ้าน ปิดแก๊สและถังแก๊สให้เรียบร้อย เก็บไม่ขีดไฟหรือไฟแช็คให้ห่างมือเด็ก ไม่สูบบุหรี่บนที่นอน ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังไม่ดับสนิท เป็นต้น
.jpeg)
ข่าวเด่น