ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 187.03 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 17,908.28 จุด ดัชนีแนสแดค เพิ่มขึ้น 75.33 จุด หรือ 1.55% ปิดที่ 4,947.42 จุด และดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 20.70 จุด หรือ 1.00% ปิดที่ 2,082.42 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการค้าของจีน โดยสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 18.7% เทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวลง 1.7% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าเดือนมี.ค.ทั้งสิ้น 1.946 แสนล้านหยวน (2.99 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลงจากเดือนก.พ.ที่ระดับ 2.095 แสนล้านหยวน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ หลังจากที่ลดลง 0.1% เช่นกันในเดือนม.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ 41.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 44.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำเมื่อ13เม.ย.ปิดลบโดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,248.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น