กรมส่งเสริมการค้าฯสำรวจเหมืองแร่อัญมณีในเมียนมา เสนอสร้างระบบมาตรฐานการรับรองเทียบชั้นสากล ใต้กรอบAEC ชี้ผู้ประกอบการไทยตั้งรง.ผลิตได้สิทธิGSPยุโรป-ญี่ปุ่น
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) เปิดเผยผลการเดินทางไปเมียนมา และได้หารือกับบริษัทผู้ดำเนินการอุตสาหกรรมเหมืองแร่อัญมณี ทับทิม ไพลินในเมืองโมกก แนะนำให้ไทยใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือประชาเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) มากขึ้น เพื่อร่วมลงทุนแหล่งวัตถุดิบในเมียนมาอย่างยั่งยืน ทั้งจากการเคลื่อนย้ายสินค้าเสรี การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรี การพัฒนาทักษะและเพิ่มจำนวนนักออกแบบ การเข้าสู่ตลาดและช่องทางจัดจำหน่าย เป็นต้น รวมถึงขอให้ผ่อนผันและปรับปรุงกฎระเบียบการค้าวัตถุดิบอัญมณี
ทั้งนี้เมียนมาสามารถใช้ไทยเป็นสถานที่ขยายการค้าวัตถุดิบอัญมณีและเครื่องประดับของเมียนมาได้ รวมถึงการเร่งหาแนวทางความร่วมมือในการพัฒนามาตรฐานการรับรองอัญมณีให้เป็นสากลมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลไทยโดยสถาบันจีไอทีจะพิจารณาโอกาสทางธุรกิจ อย่างไรก็ตามแม้เมียนมาจะไม่อนุญาตให้ต่างชาติลงทุนในธุรกิจเหมืองอัญมณี แต่ผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจะได้รับประโยชน์หลายด้าน อาทิ ค่าจ้างแรงงานท้องถิ่น หรือ เมียนมายังคงได้รับสิทธิจีเอสพีจากสหภาพยุโรป (อียู) รวมถึงการได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้ากับญี่ปุ่นในฐานะที่อยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด จึงได้รับกรยกเว้นภาษีนำเข้าและไม่ถูกจำกัดปริมาณนำเข้า
สำหรับเป้าหมายการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับปี 2559 คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 5% หรือ มีมูลค่า 7,550 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยกลุ่มอัญมณีสังเคราะห์ส่งออกเพิ่มขึ้นกว่า 26 %
ข่าวเด่น