นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงแนวทางการช่วยหางานให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ว่า ได้ให้สำนักงานจัดหางานทุกแห่งรวบรวมข้อมูลความต้องการจ้างแรงงานในพื้นที่ประสบภัยแล้ง และจัดงานนัดพบแรงงานเฉพาะกิจในพื้นที่ โดยประสานสถานประกอบการที่ต้องการจ้างแรงงานมาเปิดรับสมัครงานโดยตรง รวมทั้งเปิดรับสมัครนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการทำงานพาร์ทไทม์ช่วงปิดภาคเรียน เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครอง ซึ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม มีนักเรียน นักศึกษา ลงชื่อสมัครงานจำนวน 2,018 คน ได้รับการบรรจุงาน 956 คน
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประสบภัยแล้งที่เดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพมหานคร กรมการจัดหางาน มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่สำนักงานจัดหางานที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 และที่สถานีรถไฟหัวลำโพง โดยมีผู้ต้องการทำงานจำนวน 241 คน ได้รับการบรรจุงาน 124 คน ตำแหน่งที่ได้รับการบรรจุ 5 อันดับแรก คือ แรงงานทั่วไป พนักงานฝ่ายผลิต เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คนงานก่อสร้าง และพนักงานขับรถส่งของ
นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า กรมการจัดหางานยังได้ส่งเจ้าหน้าที่จัดหางาน ไปให้ความรู้เรื่องการประกอบอาชีพอิสระในพื้นที่ เช่น การขายไอศกรีม และการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้านแทนการเดินทางออกนอกพื้นที่ เนื่องจากผู้ประสบภัยแล้งส่วนใหญ่เป็นแรงงานเกษตร อยู่ในวัยกลางคน อาจส่งผลให้เดินทางไปทำงานนอกพื้นที่ลำบาก นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ที่มีงบประมาณในการจ้างงานเร่งด่วนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง 90 ล้านบาท โดยส่งเสริมให้คนในชุมชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ในโครงการสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ และได้รับค่าตอบแทน เช่น ขุดลอกคูคลอง ซ่อมแซมอาคารสาธารณประโยชน์ เป็นต้น
ข่าวเด่น