วันนี้ (18 เมษายน 2559) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ครั้งที่ 1/2559 โดยมี คณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง อธิบดีและตัวแทนนักธุรกิจภาคเอกชนเข้าร่วมประชุม
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดการประชุมสรุปความว่าประเทศไทยมีความในการอาศัยพลังของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนและสร้างความเข้มแข็งแก่ประเทศและก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างมั่นคง
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าของคณะทำงานจำนวน 5 กลุ่มในคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 การยกระดับนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์การปรับแก้กฎหมายและกลไกภาครัฐ ควรพัฒนาคลัสเตอร์ภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และการดึงดูดการลงทุน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
กลุ่มที่ 2 การพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ
กลุ่มที่ 3 การส่งเสริมการท่องเที่ยวแลกไมล์ (mice) การสร้างรายได้ และการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ
กลุ่มที่ 4 การศึกษาพื้นฐานและพัฒนาผู้นำรวมทั้งการยกระดับคุณภาพวิชาชีพ
กลุ่มที่ 5 การส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศรวมทั่งการส่งเสริมกลุ่ม SME และ Start Up
ตอนท้ายของการประชุม ที่ประชุมได้รับทราบการบรรยายเรื่อง “Thailand 4.0” โดย ด.ร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สรุปความว่า กระบวนการพัฒนาประเทศไทยภายใต้ “ประเทศไทย 4.0” โดยเน้นการสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนการปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ การปฎิรูปการวิจัยและพัฒนา และการปฎิรูปการศึกษาไปพร้อม ๆ กัน อีกทั้งเป็นการผนึกกำลังของ 3 ภาคส่วนภายใต้แนวคิด “ประชาชน” ตลอดจนการขับเคลื่อนเพื่อตอบโจทย์การเป็นประเทศที่มั่นคั่ง มั่นคง และยั่งยืนอย่างแท้จริง
อนึ่ง นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชนในคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ พร้อมคณะทำงานได้เดินหน้าในระยะที่ 1 ด้วยการลงพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ เพื่อศึกษาข้อมูลและความต้องการของแต่ละชุมชน เสร็จสิ้นแล้ว 4 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดภูเก็ต อุดรธานี เพชรบุรี และเชรยงใหม่ และมีแผนลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ภายใน 30 เมษายน ศกนี้ เพื่อนำไปสู่การวางแผนสนับสนุนและพัฒนาองค์ความรู้สู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ในทั้ง 5 จังหวัด และในเฟส 2 หรือระยะที่ 2 จะรุกต่อในอีก 6 จังหวัด ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ศกนี้ด้วย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานดังกล่าวของคณะทำงานฯ จะส่งผลให้สร้างรายได้ให้ชุมชน เพิ่มมากขึ้นและส่งผลให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้นอย่างยั่งยืน (Together For Best Futuer)
.jpg)
ข่าวเด่น