ศาลฎีกา พิพากษาให้จำคุก นายสิริวัฒน์ พรหมบุรี อดีตผู้ช่วยผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 9(1) รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี ปรับกระทงละ 10,000 บาท รวมจำคุก 4 ปี ปรับ 20,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
คดีนี้สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยร้ายแรงนายสิริวัฒน์เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งดังกล่าวว่ากระทำความผิดฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่กรณีทุจริตในการอนุมัติเงินกู้ โดยนายสิริวัฒน์เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการที่ขอรับสินเชื่อจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ดังนี้
1.โครงการคริสตัล สแควร์ ซึ่งนายสิริวัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท คริสตัล สแควร์ จำกัด และมีภริยาของนายสิริวัฒน์ และบุคคลอื่นเป็นผู้ถือหุ้นด้วย ประกอบกิจการค้าอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียม (ห้องชุด) แต่ ธอส.ให้ชะลอสินเชื่อโครงการนี้เนื่องจากมียอดหนี้ค้างชำระสูง ดังนั้นนายสิริวัฒน์จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการทำเรื่องขออนุมัติผ่อนผันรับลูกค้ารายย่อยโครงการคริสตัล สแควร์ และเป็นผู้ลงชื่ออนุมัติผ่อนผันเอง ทั้งที่อำนาจการผ่อนผันไม่ใช่อำนาจของนายสิริวัฒน์ การกระทำดังกล่าวนายสิริวัฒน์ได้ประโยชน์จากการที่ลูกค้าโครงการได้สินเชื่อของ ธอส. และนำเงินกู้นี้ไปชำระค่าซื้อห้องชุดโครงการคริสตัล สแควร์ ซึ่งเป็นโครงการของนายสิริวัฒน์
2.โครงการแม่รำพึงแลนด์ ซึ่งเป็นโครงการจัดสรรที่ดินบนที่ดินของนายสิริวัฒน์ และภริยา กับพวก โดยนายสิริวัฒน์ได้ใช้อำนาจพิจารณาและมีความเห็นเสนอเรื่องของผ่อนผันสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า) ของโครงการ เพื่อให้ ธอส.รับเป็นแหล่งเงินกู้ระยะยาวของโครงการ การกระทำดังกล่าวของนายสิริวัฒน์ได้ประโยชน์จากการที่ลูกค้าโครงการได้สินเชื่อของ ธอส.แล้วนำเงินกู้ ไปชำระค่าซื้อที่ดินโครงการแม่รำพึงแลนด์ ซึ่งเป็นที่ดินของนายสิริวัฒน์เอง
ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องถึงอัยการสูงสุด ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดโดยพนักงานอัยการ สำนักอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 2 ได้ยื่นฟ้องนายสิริวัฒน์เป็นจำเลยต่อศาลอาญาและศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์อุทธรณ์และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นนายสิริวัฒน์มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 (2) ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี โจทก์และจำเลยฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า นายสิริวัฒน์มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 9 รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท รวมจำคุก 4 ปี และปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี คดีถึงที่สุด
ในส่วนของการดำเนินการทางวินัย คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้ ธอส.ดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการ ธอส.ได้พิจารณาลงโทษให้ไล่นายสิริวัฒน์ออกจากงานแล้ว
ข่าวเด่น