วันนี้ (19 เม.ย. 59) ที่กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่งทั่วประเทศ เปิดให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 10 เมษายน จนถึงเช้าวันที่ 18 เมษายน 2559 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง โดยจัดเจ้าหน้าที่รองรับการให้บริการ การรับเรื่องราวร้องทุกข์ การขอความช่วยเหลือ การแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด และการให้บริการข้อมูลต่างๆ รวมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
จากการสรุปผลการดำเนินงานในห้วงเวลาดังกล่าวพบว่า มีประชาชนสนใจติดต่อขอรับบริการศูนย์บริการร่วม/บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) มากที่สุดเป็นจำนวน 130,217 ราย จำแนกเป็นการให้บริการงานทะเบียนและบัตร 51,967 ราย บริการงานทะเบียนรถยนต์ 15,098 ราย บริการชำระค่าไฟฟ้า-ประปา 61,584 ราย และ รับแจ้งไฟฟ้า-ประปาขัดข้อง 1,568 ราย
นอกจากนี้ยังได้ให้บริการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ จำนวน 19,791 เรื่อง สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน 19,540 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 98.73 การให้บริการช่วยเหลือประชาชนผ่านชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว Mobile Service จำนวน 545 เรื่อง และ การให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและประชาชน อาทิ การสอบถามเส้นทาง/ข้อมูลสถานที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยว การให้ความช่วยเหลือกรณี ประชาชนประสบเหตุฉุกเฉิน เช่น รถเสีย ยางแตก ซ่อมแซมรถ และเปลี่ยนยาง รวมจำนวน 10,232 เรื่อง
สำหรับการให้บริการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ 19,791 เรื่อง พบว่าประชาชนสนใจเข้าใช้บริการศูนย์ดำรงธรรมโดยเดินทางขอรับบริการด้วยตนเอง มากถึง 18,849 เรื่อง ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้กำชับเป็นแนวทางปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับแจ้งปัญหาข้อร้องเรียนจากประชาชน หากเรื่องใดสามารถแก้ไขได้ให้เร่งดำเนินการทันที หรือหากไม่สามารถแก้ไขได้ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนว่าประชาชนต้องการหรือเดือดร้อนเรื่องอะไรแล้วให้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาดำเนินการ หรือหากปัญหาข้อร้องเรียนนั้นอยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการอื่น ให้รีบรายงานให้ส่วนราชการนั้นดำเนินการแก้ไขตามอำนาจหน้าที่ และกำกับติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาศูนย์ดำรงธรรมสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้เป็นผลสำเร็จในหลายๆ เรื่อง อาทิเช่น การแก้ไขปัญหาเจ้าหนี้ตามยึดรถ ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา เป็นกรณีประชาชนร้องขอให้ช่วยเหลือจากการถูกบริษัทไฟแนนซ์ ส่งเจ้าหน้าที่มายึดรถที่ค้างชำระค่างวดเกิน 3 งวด เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2559 โดยผู้ร้องยืนยันว่าได้จ่ายเงินชำระค่างวดไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมาโดยโอนเข้าบัญชีของบริษัทฯ ศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้เชิญผู้ร้องและคู่กรณี (เจ้าหน้าที่บริษัทฯ) มาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยผู้ร้องนำหลักฐานการโอนเงินมาแสดง และเชิญเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัทฯ มารับทราบเอกสารดังกล่าวเนื่องจากเป็นวันหยุดติดต่อกัน ผลการเจรจาคู่กรณีตกลงกันได้และไม่มีการยึดรถ และในวันเปิดทำการผู้ร้องจะไปบริษัทฯ เพื่อดูรายละเอียดเอกสารการโอนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้ร้องมีความพึงพอใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
การช่วยเหลือผู้ป่วยตามหาญาติ ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด กรณีเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2559 ได้มีการแชร์ข้อมูลใน Social Media ขอความช่วยเหลือในการตามหาญาติผู้ป่วยหญิงอายุ 65 ปี ซึ่งกำลังป่วยหนักและเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีภูมิลำเนาตามหนังสือเดินทางระบุตำบลท่าม่วง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อทราบเรื่องผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเสลภูมิ ประสาน นายกเทศมนตรีตำบลท่าม่วงและคณะ ลงพื้นที่เพื่อติดตามหาญาติ จนกระทั่งวันที่ 17 เมษายน 2559 ได้พบญาติของผู้ป่วยรายดังกล่าว ซึ่งเป็นราษฎรหมู่บ้านนากระตึบ หมู่ที่ 8 ตำบลท่าม่วง อำเภอเสลภูมิ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าได้ขาดการติดต่อกับญาติมาเป็นระยะเวลา 15 ปีแล้ว และในวันที่ 18 เมษายน คณะของเทศบาลตำบลท่าม่วง พร้อมญาติของผู้ป่วยรายดังกล่าว ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อให้การช่วยเหลือและให้กำลังใจ โดยญาติประสงค์ให้ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางละมุงต่ออีก 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นน้องสาวของผู้ป่วยขอให้เทศบาลตำบลท่าม่วง นำรถยนต์กู้ชีพฉุกเฉินไปรับเพื่อเดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้านจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป ทั้งนี้ญาติของผู้ป่วยรายดังกล่าวได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้
การช่วยเหลือชาวต่างชาติเรื่องขอต่อวีซ่า ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี กรณีเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2559 ได้มีชาวต่างชาติสัญชาติอเมริกันพร้อมภรรยาชาวไทย เข้าปรึกษาศูนย์ดำรงธรรมฯ เนื่องจากผู้ร้องได้ยื่นเอกสารคำร้องขอต่อวีซ่า 1 ปี ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุดรธานี แล้วมีปัญหาในการสื่อสารในเรื่องการดำเนินการและขั้นตอนของการต่อวีซ่าไม่ชัดเจน ศูนย์ดำรงธรรมฯ จึงประสานไปที่หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวอุดรธานี เพื่อให้ผู้ร้องได้เข้าพบและรับฟังคำชี้แจงในประเด็นดังกล่าว และได้รับเอกสารการต่อวีซ่าตามความประสงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผู้ร้องมีความเข้าใจและพึงพอใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้บริการประชาชนของศูนย์ดำรงธรรมในพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานที่ศูนย์ดำรงธรรมประสานขอความร่วมมือทั้งในการเข้ามาร่วมให้บริการ ณ จุดบริการ หรือการเปิดให้บริการผ่านระบบออนไลน์ของหน่วยงาน ตลอดจนการประสานการปฏิบัติในด้านต่างๆ ทำให้ศูนย์ดำรงธรรมสามารถให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ศูนย์ดำรงธรรมเป็นศูนย์กลางในการให้บริการและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน สามารถเป็นที่พึ่งให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มีการพัฒนาบุคลากร และนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ในการพัฒนางานบริการ เพื่อเพิ่มคุณภาพการให้บริการของศูนย์ดำรงธรรมมากยิ่งขึ้น
ข่าวเด่น