สธ. เผยพบผู้ป่วยผลกระทบจากหมอกควัน 8 จังหวัดภาคเหนือใน 4 กลุ่มโรค สัปดาห์ที่ผ่านมา 2 หมื่นกว่าคน กำชับสถานบริการสาธารณสุขในสังกัด จัดเตรียมยาเวชภัณฑ์พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง
กระทรวงสาธารณสุขเผย พบผู้ป่วยผลกระทบจากปัญหาหมอกควันภาคเหนือ 8 จังหวัด ใน 4 กลุ่มโรค 21,891 ราย จัดส่งหน้ากากอนามัย 2 แสนชิ้นให้จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 6 แสนชิ้น กำชับสถานบริการสาธารณสุขในสังกัด จัดเตรียมยาเวชภัณฑ์พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง แนะ 4 กลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ หลีกเลี่ยงออกนอกบ้าน งดกิจกรรมกลางแจ้ง
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ วันนี้ (21 เมษายน 2559) เวลา 09.00 น. มีพื้นที่ใน 2 จังหวัดคือเชียงใหม่และเชียงราย ที่มีค่าเฉลี่ยหมอกควันเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงป่วยง่าย คือผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ จะทำให้มีอาการทางระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไอ หายใจลําบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่ปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ส่วนประชาชนทั่วไป อาจมีอาการ ไอ หายใจลําบาก ระคายเคืองตา
ข้อมูลจากสำนักควบคุมโรคที่ 1 จ.เชียงใหม่ รายงานผลการเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพจากปัญหาหมอกควันใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่?ฮ่องสอน ลําปาง ลําพูน พะเยา แพร่ และน่าน สัปดาห์ที่ 15 ระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2559 มีรายงานผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรคที่เฝ้าระวัง จำนวนทั้งสิ้น 21,891 ราย ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด 10,760 ราย กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด 8,711 ราย กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ 1,298 ราย และกลุ่มโรคตาอักเสบ 1,122 ราย กำชับให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด จัดเตรียมยาเวชภัณฑ์พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้ความรู้คำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน และแนะนำ 4 กลุ่มเสี่ยงให้หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน งดกิจกรรมกลางแจ้ง
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก จัดส่งหน้ากากอนามัย ให้ 8 จังหวัดภาคเหนือ รวม 200,000 ชิ้น สำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 600,000 ชิ้น พร้อมสั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ เตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับภาพรวมผลกระทบด้านสุขภาพยังไม่พบประชาชนมีอาการรุนแรง ให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังและให้คำแนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านอาสาสมัครสาธารณสุข และสื่อต่างๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ท้องถิ่น
ขอแนะนำให้ประชาชนร่วมมือกัน อย่าเผาเศษพืช ฟางข้าว และเศษข้าวโพด ซึ่งเป็นสาเหตุของฝุ่นละออง และหมอกควัน โดยให้นำมาตรการอื่นมาใช้จำกัดขยะทางการเกษตร เช่น นำไปทำปุ๋ยหมัก หรือการรีไซเคิล และต้องป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากหมอกควัน โดย 1.ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด 2.ควรทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก 3.สวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากและจมูกและเปลี่ยนทุกวัน 4.งดการทำกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่น หรือทำงานหนัก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ระคายคอ ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทันที
ข่าวเด่น