สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผย ครม.เห็นชอบการเปิดตลาดหัวพันธุ์มันฝรั่ง และหัวมันฝรั่งสดแปรรูปตามความตกลงองค์การการค้าโลก ตามที่คณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์เห็นชอบ ระบุ อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่คณะอนุกรรมการจัดการผลิต และการตลาด กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่งกำหนด โดย กระทรวงเกษตรฯ เตรียมหาพื้นที่ที่เหมาะสม และพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหัวมันฝรั่งสดเพื่อการแปรรูปทดแทนการนำเข้าต่อไป
นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการเปิดตลาดหัวพันธุ์มันฝรั่ง และหัวมันฝรั่งสดแปรรูปตามความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์เห็นชอบ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เสนอการเปิดตลาดหัวพันธุ์มันฝรั่ง ปี 2559 ไม่จำกัดจำนวน อัตราภาษีร้อยละ 0 (ตามข้อผูกพันกำหนดไว้ที่ ร้อยละ 27) และอัตราภาษีนอกโควตาร้อยละ 125 และเห็นชอบการเปิดตลาดหัวมันฝรั่งสดเพื่อการแปรรูป ปี 2559 ปริมาณในโควตา 45,000 ตัน อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 27 และอัตราภาษีนอกโควตา ร้อยละ 125
![](/userfiles/surapong-jia(1).jpg)
ด้านนางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า สำหรับการเปิดตลาดหัวพันธุ์มันฝรั่ง และหัวมันฝรั่งสดเพื่อการแปรรูป ปี 2559 อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่คณะอนุกรรมการจัดการผลิต และการตลาด กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่งกำหนด ซึ่งได้กำหนดเงื่อนไข ดังนี้ 1. ให้นิติบุคคลเป็นผู้นำเข้า 2. ผู้นำเข้าต้องทำหนังสือรับรองพื้นที่ปลูก ซึ่งมีทะเบียนเกษตรกร ข้อมูลปริมาณหัวพันธุ์ ราคาขายหัวพันธุ์ และราคารับซื้อผลผลิตมันฝรั่ง โดยมีเกษตรจังหวัดหรือสหกรณ์จังหวัดรับรอง 3. ให้ผู้นำเข้าจำหน่ายหัวพันธุ์มันฝรั่งพันธุ์โรงงานให้แก่เกษตรกรในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 35 บาท และ 4. ให้ผู้นำเข้ารับซื้อผลผลิตมันฝรั่งสดจากเกษตรกร ฤดูฝน (กรกฎาคม – ธันวาคม) ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 14.00 บาท และฤดูแล้ง (มกราคม – มิถุนายน) ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.40 บาท สำหรับการนำเข้าหัวมันฝรั่งสดเพื่อการแปรรูปภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) กำหนดให้นำเข้าช่วงเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม ทั้งนี้ บริษัทรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2559 ในราคากิโลกรัมละ 11.30 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้
การผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่ง และหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูปในประเทศ ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ เนื่องจากเกษตรกรต้องการขยายพื้นที่เพาะปลูก ประกอบกับมันฝรั่งเป็นพืชที่อ่อนไหวต่อการติดโรคมาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มีโครงการส่งเสริมปลูกมันฝรั่งพันธุ์โรงงาน มีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2557 โดยจัดทำแปลงต้นแบบให้กับเกษตรกรทั้งหมด 47 แปลง ส่วนในปี 2558 จำนวน 27 แปลงของพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน และตาก และปี 2559 จำนวน 20 แปลง ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง ตาก สกลนคร และนครพนม เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้เทคโนโลยีการปลูกมันฝรั่งและการป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตจากเดิมไร่ละ 2,700 กิโลกรัม เป็นไร่ละ 3,000-3,200 กิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังมีการผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่ง G0 (เจนเนอเรชั่นที่ 0 ) ได้ประมาณ 30,000 - 40,000 หัว และ G1 – G3 (เจนเนอเรชั่นที่ 1-3 ) ปีละ 50 ตัน เป็นพันธุ์แอตแลนติก และให้ภาคเอกชนรับไปผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งขยายผลต่อไป จากที่เคยนำเข้าในอดีตปีละ 6,000-7,000 ตัน เหลือเพียง 1,421 ตันในปี 2558 นอกจากนี้ เกษตรกรเคยซื้อพันธุ์มันฝรั่งที่นำเข้าจากต่างประเทศจากภาคเอกชนกิโลกรัมละ 35 บาท แต่หากซื้อหัวพันธุ์มันฝรั่งที่ผลิตในประเทศ จะเหลือเพียงกิโลกรัมละ 26 บาท
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดทำโครงการผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งทดแทนการนำเข้า เพื่อให้เกษตรกรได้รับหัวพันธุ์มันฝรั่งในราคาถูกกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถใช้หัวพันธุ์มันฝรั่งในประเทศมากขึ้น ให้ผลผลิตสูงขึ้น และได้กำไรเพิ่มขึ้น สำหรับการผลิตหัวมันฝรั่งสดเพื่อการแปรรูปทดแทนการนำเข้า ซึ่งจะมีการปลูกในช่วงฤดูฝน (กรกฎาคม-ธันวาคม) กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการหาพื้นที่ที่เหมาะสม และพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหัวมันฝรั่งสดเพื่อการแปรรูปทดแทนการนำเข้าต่อไป รองเลขาธิการ กล่าว
ข่าวเด่น