กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ 11 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เครือข่ายประชารัฐ และประชาคมสตาร์ทอัพไทย จัดงานแถลงข่าวงาน “Startup Thailand 2016” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมเป็นประธานเปิดงาน
ซึ่งงาน “Startup Thailand 2016”นับว่าเป็นมหกรรมยิ่งใหญ่แห่งปีครั้งแรกในประเทศไทยเป็นเวทีเปิดตัวธุรกิจStartup กว่า 180ราย เพื่อสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจ Startup ให้เกิดการขยายธุรกิจและการสร้างตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศนำไปสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดและสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน นอกจากจะเป็นการระดมผู้ประกอบการ Startup และนักลงทุนให้มีโอกาสมาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็งแล้ว
ยังเป็นการสร้างความตื่นตัว มอบองค์ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจในวงกว้างของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา อาชีวะ ผู้ที่พึ่งเริ่มทำงาน เกษตรกรยุคใหม่ ผู้บริหารองค์กร รวมทั้งยังช่วยให้นักธุรกิจเอสเอ็มอี ได้เข้าใจและรู้จักStartup สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้กับ Startup รุ่นใหม่ จึงได้จัดให้มีการแข่งขัน Pitching Challengeให้เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานนี้ โดยจะประกาศผล Startup ที่ผ่านการคัดเลือก 10 ทีมสุดท้าย และจะตัดสินรอบชิงชนะเลิศด้วยการให้ Startup แต่ละทีมนำเสนอแผนของตนเองเป็นภาษาอังกฤษ ทีมละ 5 นาที ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 520,000 บาท ในวันที่ 30 เมษายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวว่า “ในการประชุมครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2559 ของคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ซึ่งมี พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีเป็นประธานมีมติมอบหมายกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นตัวแทนรัฐบาลและเจ้าภาพหลักในการจัดงาน “Startup Thailand 2016” ร่วมกับ 11 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เครือข่ายประชารัฐ และประชาคมสตาร์ทอัพไทยเพื่อขับเคลื่อนและมุ่งมั่นที่จะนำประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมศูนย์กลางของอาเซียน
ปัจจุบันจำนวนนักธุรกิจStartup ในประเทศไทยมีประมาณ 1,000 – 2,500 ราย และในปีนี้รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิดธุรกิจStartupให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการขยายฐานเศรษฐกิจและการกระจายตัวให้มากที่สุด โดยธุรกิจ Startup เหล่านี้จะไม่รวมตัวกันเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้นเพราะรัฐบาลมีนโยบายและวางแผนจะทำเขต Startup หรือ Startup Districtให้กระจายอยู่ทั่วประเทศสำหรับการจัดงาน “Startup Thailand 2016” ครั้งนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด“Unite to Rise”ซึ่งเป็นการรวบรวม Startup และหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับ Startup ทุกภาคส่วนเป็นครั้งแรกของประเทศไทยโดยเน้นการใช้สินค้าและบริการของ Startup นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่ได้เปิดเวทีให้ Startup ที่มีไอเดียดี มีความสามารถได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงความคิดเห็นและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมผลงานในการสร้างธุรกิจใหม่ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ใหม่ที่มีประโยชน์แก่นักธุรกิจStartupและนักลงทุน เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงและการร่วมทุน เพื่อส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยที่สดใสในอนาคต”
ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า “นโยบายของกระทรวงไอซีที ชัดเจนในเรื่องของการสนับสนุนธุรกิจStartupเพื่อให้เกิดความสอดคล้องและนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล(Digital Economy) ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักด้านขับเคลื่อนเศรษฐกิจผนวกกับไอทีกระทรวงฯมีเป้าหมายในเชิงยุทธศาสตร์ด้วยการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปต่อยอดธุรกิจเพื่อยกระดับรายได้ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตนอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภายใต้กระทรวงฯ ที่มีความแข็งแกร่งและพร้อมให้การสนับสนุนนักธุรกิจStartup ได้อย่างเต็มที่
อาทิ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (SIPA) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือในการจัดงาน “Startup Thailand 2016”เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตตามวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่จะพัฒนาประเทศให้ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ต่อไป
งาน “Startup Thailand 2016” จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Unite to Rise” หรือ “รวมพลัง Startup เพื่อก้าวต่อไปของเศรษฐกิจไทย” นอกเหนือจากการรวมตัวกันของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากอีกหลายหน่วยงานมาร่วมกันค้นพบกับธุรกิจแนวใหม่และนวัตกรรมโมเดลธุรกิจที่ทำให้ธุรกิจเติบโตในเวลาอันรวดเร็วที่ไม่ควรพลาด ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2559 พร้อมด้วยปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วิสัยทัศน์และพลังสร้างชาติด้วย Startup Thailand” โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ “การขับเคลื่อน Startup Thailand : ฐานเศรษฐกิจใหม่ของไทย” โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและ "Creative Economy : A Platform for Korean Startup Development" โดย ฯพณฯ ชเวยางฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวางแผนอนาคต ประเทศเกาหลีใต้
พร้อมกันนี้ยังเปิดเวทีสัมมนาโดยเชิญ Startup ที่มีเชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ อาทิ หัวข้อ “Startup & New Investment Opportunities in Asia” โดย นายเดฟ แมคเคลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง “500Startups”รวมถึงหัวข้ออื่นๆ ที่น่าสนใจและมีประโยชน์อีกมากมายตลอดภายในงานทั้ง 4 วัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-017-5555 call center : 1313 อีเมล์: contact@thailandstartup.orgเว็บไซต์: www.thailandstartup.orgหรือ Facebook: www.facebook.com/ThailandStartup
“Startup Thailand 2016” เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อรวมพลังของธุรกิจ Startup เพื่อก้าวต่อไปของเศรษฐกิจไทยโดยมีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเจ้าภาพหลัก พร้อมด้วยความร่วมมือกับ11 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เครือข่ายประชารัฐ และประชาคมสตาร์ทอัพไทย ร่วมกันจัดงานครั้งนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด “Unite to Rise”
สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพได้แบ่งออกเป็น 8 ประเภทเพื่อให้สอดคล้องกับผู้ประกอบการในแต่ละด้านคือ ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเกษตร (AgriTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม (IndustryTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ (GovTech&EducationTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropertyTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน (Lifestyle – Travel – Media) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเข้าถึงสินค้า (E-Commerce & Logistic) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงิน (FinTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการแพทย์และยารักษาโรค(MedTech& Healthcare)
ข่าวเด่น