สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,176 คน ระหว่างวันที่ 18-22 เม.ย.ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กำหนดให้วันที่ 7 ส.ค.2559 เป็นวันออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.30 ระบุคิดว่าเป็นการมีส่วนร่วมและแสดงออกทางประชาธิปไตย รองลงมาร้อยละ 74.66 มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย และร้อยละ 71.43 ระบุอยากให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อม และดำเนินการให้ดีที่สุด
ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการรับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนนั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 79.51 ระบุอยู่ที่เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ขณะที่ร้อยละ 76.36 การตระหนักถึงความสำคัญของรัฐธรรมนูญ และร้อยละ 73.55 ระบุความถูกต้องยุติธรรมในการดำเนินงาน
สำหรับการที่นักการเมืองต่างๆ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 75.26 มองว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถทำได้ ร้อยละ 74.06 ระบุทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง และร้อยละ 70.83 คิดว่าประชาชนควรรับฟังอย่างมีวิจารณญาณ
เมื่อถามว่าประชาชนเชื่อ “ความคิดเห็นของนักการเมืองที่ชื่นชอบ” ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้มากน้อยเพียงใด พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.15 ระบุไม่ค่อยเชื่อ เพราะเป็นเกมการเมือง เป็นเรื่องปกติที่มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและเห็นต่าง มาจากความคิดเห็นส่วนตัว ขณะที่ร้อยละ 36.26 ระบุไม่เชื่อ เพราะการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองมากกว่า มีเพียงร้อยละ 13.87 ระบุค่อนข้างเชื่อ เพราะแสดงความคิดเห็นน่าสนใจ มีเหตุมีผล น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ ขณะที่ร้อยละ 4.72 ระบุเชื่อมาก เพราะเป็นบุคคลที่ชื่นชอบ อยู่ในแวดวงการเมืองมานาน มีความรู้และประสบการณ์ทางการเมือง
ส่วนปัญหาอุปสรรคในการที่จะไปลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ร้อยละ 83.08 ระบุ เรื่องเวลา ติดธุระ ไม่สะดวก รองลงมาร้อยละ 83.08 ระบุไม่มีความรู้ความเข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ติดตาม และร้อยละ 79.00 ความคิดเห็นส่วนตัวที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ข่าวเด่น