บีโอไอเผยยอดขอรับส่งเสริมลงทุนไตรมาสแรก 311 โครงการ เพิ่ม 98% มูลค่า 8.99 หมื่นล้าน เพิ่ม 234% คาด ไตรมาส 2 แห่ขอรับส่งเสริมอีก 1 แสนล้าน ทำครึ่งปีแรกมีมูลค่าคำขอ 2 แสนล้านบาท
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงยอดคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ปี 59 ว่า มีจำนวน 311 โครงการ เพิ่มขึ้น 98% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 58 ที่มีจำนวน 157 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 89,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 234% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 26,930 ล้านบาท ส่วนเดือน มี.ค.59 มีมูลค่าขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงถึง 54,010 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 420% จากเดือน มี.ค.58 ที่มีมูลค่า 10,380 ล้านบาท
ประเทศที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด ในช่วงไตรมาสแรกปี 59 คือ ญี่ปุ่น สัดส่วน 30% ของการลงทุนทั้งหมด โดยเป็นการลงทุนเพื่อผลิตชิ้นส่วนระบบเครื่องยนต์ 7,200 ล้านบาท และการผลิตรถยนต์ 2,875 ล้านบาท รองลงมาคือเนเธอร์แลนด์ เป็นการผลิตเคมีภัณฑ์ หรือพอลิเมอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 4,000 ล้านบาท คอนแทคเลนส์ 2,401 ล้านบาท เลนส์แก้วตาเทียม 1,813 ล้านบาท และชิ้นส่วนยานพาหนะ 1,754 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนจากจีน ผลิตซิลิกา 1,400 ล้านบาท ชิ้นส่วนโซลาร์เซลล์ 728 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์เหล็ก 700 ล้านบาท เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการขอรับส่งเสริมการลงทุนในไตรมาสแรกสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ที่จะเน้นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี หรือเป็นอุตสาหรรมเชิงมูลค่ามากกว่าเชิงปริมาณ โดยมีอุตสาหกรรมยานยนต์ขอรับการส่งเสริม 8 โครงการ มูลค่า 13,653 ล้านบาท แบ่งเป็นการผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ เช่น ชิ้นส่วนระบบส่งกำลัง ชิ้นส่วนระบบเครื่องยนต์ 7 โครงการ ลงทุน 10,777 ล้านบาท การผลิตรถปิกอัพ 1 โครงการ ลงทุน 2,875 ล้านบาท, อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ 22 โครงการ 8,966 ล้านบาท เช่น ผลิตเครื่องซักผ้าที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ลงทุน 3,541 ล้านบาท เป็นต้น
นางหิรัญญา กล่าวถึง แนวโน้มการขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วงในไตรมาส 2 คาดว่าจะมีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท โดยเป็นคำขอภายใต้นโยบายซูเปอร์คลัสเตอร์ไม่น้อยกว่า 8 หมื่นล้านบาท ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมชิ้นส่วนยานยนต์ ยางอากาศยาน ระบบอัตโนมัติ สิ่งทอเทคโนโลยีใหม่ เป็นต้น และคาดว่าจะมีโครงการอื่นๆที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมคลัสเตอร์มายื่นคำขอไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท เช่น เคมีภัณฑ์ เกษตรและอาหารแปรรูป เป็นต้น
"ไตรมาส 2 ปี 59 คาดว่า มีคำขอรับส่งเสริมลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ทำให้ครึ่งปีแรกจะมีมูลค่าคำขอประมาณ 2แสนล้านบาท คิดเป็น 45% ของเป้าหมายทั้งปี 59 ที่ตั้งเป้าคำขอรับการส่งเสริมลงทุน 4.5แสนล้านบาท และเกิดการลงทุนจริง 6-7แสนล้านบาท"
ข่าวเด่น