นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกรณีหลีกเลี่ยงการเสียภาษี และฉ้อโกงภาษี ตามข้อเสนอขององค์กรต่อต้านการฟอกเงิน (FATF) โดยมีสาระสำคัญ คือการเพิ่มมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน โดยให้อำนาจอธิบดีกรมสรรพากรสามารถยึดและอายัดทรัพย์ได้
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้(26เม.ย.)มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกรณีการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีและฉ้อโกงภาษีตามข้อเสนอ FATF) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจาณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. กำหนดให้อธิบดีกรมสรรพากรมีอำนาจออกคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้เป็นการชั่วคราว เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าบุคคลใดกระทำความผิดฐานหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษี ภาษีมูลค่าเพิ่ม ขอคืนภาษีอากรอันเป็นเท็จ โดยวิธีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินเป็นการชั่วคราวให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
2. ห้ามผู้ใดทำลาย ย้าย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่บุคคลอื่นซึ่งทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัด
3. กำหนดให้เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินภาษี เบี้ยปรับ และเงินเพิ่มเมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าผู้ใดหลีกเลี่ยงการเสียภาษี มีอำนาจออกคำสั่งเรียกให้ส่งคืนภาษีอากรที่ได้รับคืนไป เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าผู้ใดขอคืนภาษีอากรอันเป็นเท็จ มีหน้าที่รวบรวมและจัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังสำนักงาน ปปง.
4. กำหนดให้สำนักงาน ปปง. จัดส่งบรรดาข้อมูลซึ่งได้มาตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินให้แก่กรมสรรพากร
5. กำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรหรือฉ้อโกงภาษีอากร ให้เป็นมูลฐานความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ข่าวเด่น