นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังการประชุมเพื่อพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารแท็กซี่ ระยะที่ 2 อีก 5% ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของผู้ขับขี่แท็กซี่อย่างมาก โดยเฉพาะแท็กซี่ที่ให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาร้องเรียนว่าโกงมิเตอร์ผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง มีการเรียกเก็บค่าโดยสารแพงเกินจริง นายกฯ กำชับให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ไขปัญหาและจัดการแท็กซี่ที่โกงมิเตอร์ให้เรียบร้อยก่อนที่จะอนุมัติให้แท็กซี่ปรับขึ้นค่าโดยสาร นอกจากนี้จากการหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ยังพบว่ายังมีประชาชนร้องเรียนเรื่องการปฏิเสธผู้โดยสารเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากยังมีปัญหาอยู่อย่างนี้ ยังมีการโกงค่าโดยสาร ปฏิเสธผู้โดยสาร จะยังไม่มีอนุมัติให้มีการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่แน่นอน
"การจะพิจารณาว่าจะให้ปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่หรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาเรื่องการให้บริการของรถแท็กซี่ว่ามีคุณภาพเพียงพอหรือยัง ประชาชนพอใจหรือไม่ หากยังมีปัญหาต่อเนื่องประชาชนคงรับไม่ได้ที่จะให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร ดังนั้นช่วงที่ยังมีปัญหาจะยังไม่อนุมัติปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่แน่นอน"นายอาคมกล่าว
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในเร็วๆนี้ เตรียมเชิญบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ผู้รับผิดชอบดูแลสนามบินสุวรรณภูมิมาหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมเอาเปรียบและฉ้อโกงผู้โดยสาร โดย ทอท.จะต้องมีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนเพื่อให้ปัญหาหมดไปโดยเร็ว รวมทั้งประสานให้ กรมการขนส่งทางบก(ขบ.)บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากที่สุด เพื่อแท็กซี่เข็ดหลาบไม่กล้าทำอีก
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ขบ.พยายามจับกุม ปรับโทษหนักสูงสุด เพื่อแก้ปัญหา ที่ประชุมฯจึงยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ โดยนายอาคมต้องการให้เร่งแก้ปัญหาก่อน และขอให้ ขบ.กลับไปจัดทำรายละเอียดด้านต่างๆ ให้มีความรอบด้านมากขึ้น เช่น ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนและรายได้ของผู้ขับขี่แท็กซี่ในปัจจุบัน ผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อหากมีการปรับราคา รวมไปถึงผลกระทบต่อที่ผู้โดยสารหากมีการปรับขึ้นค่าโดยสาร คาดว่า ขบ.จะนำข้อมูลรายละเอียดเสนอให้พิจารณากระทรวงคมนาคมอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ หรือในต้นเดือนพฤษภาคมนี้
ข่าวเด่น