กรมการขนส่งทางบก ยกระดับความปลอดภัยรถโดยสารและรถบรรทุก ตามโครงการมั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS เปิดให้ประชาชนและผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถเต็มรูปแบบ ผ่านแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” ใช้งานได้แล้วทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าการนำระบบ GPS มาใช้ในการบริหารและติดตามการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ตามโครงการ “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” โดยเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS แบบเรียลไทม์ เช่น ข้อมูลการใช้ความเร็ว ชั่วโมงการขับขี่ และตำแหน่งพิกัดของรถ พร้อมเปิดให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถแบบเรียลไทม์ ผ่านแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” ซึ่งจะเป็นมิติสำคัญของการบริหารจัดการร่วมกันทุกภาคส่วนแบบ 360 องศา
กรมการขนส่งทางบกติดตามรถทุกคันในระบบผ่านการทำงานของศูนย์ฯ โดยตรง ส่งข้อมูลปัญหาให้ผู้ประกอบการปรับปรุง รับฟังทุกปัญหาจากประชาชน ด้านผู้ประกอบการนอกจากจะติดตามพฤติกรรมผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ได้แบบเรียลไทม์แล้ว ยังสามารถนำข้อมูลจากประชาชนผู้ใช้บริการไปพัฒนาปรับปรุงเพื่อการบริหารจัดการภายในองค์กรได้โดยตรง และประชาชนผู้ใช้บริการสามารถส่งข้อมูลประสบการณ์จากการใช้บริการตรงถึงผู้ประกอบการและกรมการขนส่งทางบกผ่านแอพพลิเคชั่นทันที ดังนั้น ข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” จึงเป็นส่วนสำคัญในการติดตามรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับการให้บริการที่มีคุณภาพ และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนของประเทศอย่างยั่งยืน
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานของแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” เปิดให้ผู้ใช้บริการและประชาชนทั่วไปสามารถค้นหาตำแหน่งของรถในขณะนั้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถใช้งานได้แล้วทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เพียงระบุหมายเลขทะเบียนรถ ระบบจะแสดงตำแหน่งพิกัดของรถ ความเร็วที่ใช้ และรายละเอียดของพนักงานขับรถ พร้อมระบบร้องเรียน และช่องทางรับแจ้งเหตุ เช่น กรณีรถโดยสารเกิดอุบัติเหตุ หรือรถเสียระหว่างทาง โดยแอพพลิเคชั่นจะรายงานเหตุการณ์พร้อมแสดงพิกัดของรถเข้าสู่ฐานข้อมูลของศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS
ขณะนี้มีข้อมูลรถในระบบ GPS ทั้งสิ้น 52,058 คัน (ข้อมูลวันที่ 21 เมษายน 2559) เป็นรถโดยสารประจำทาง 3,483 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง 4,428 รถบรรทุกไม่ประจำทาง 21,174 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล 13,542 คัน และรถอื่นๆ 9,431 คัน ซึ่งข้อมูลของรถจะปรากฏในระบบศูนย์ฯ ทันทีเมื่อมีการใช้รถ และทันทีที่เกิดการกระทำผิดเงื่อนไขการเดินรถและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย ศูนย์ฯ จะบันทึกประวัติผู้ขับรถ พร้อมประสานผู้ประกอบการให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถทุกคนให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในเดินทางของประชาชน
ข่าวเด่น