ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ เกิดการปรับฐานลงสวนทางกับที่คาด หลัง BoJ คงนโยบายการเงิน ขณะที่ตลาดคาดว่าจะมีการผ่อนคลายเพิ่มเติม ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนทั่วเอเชียกลับมาเป็นลบ กดดันให้ SET INDEX หลุด 1,400 จุด มาอยู่ที่ 1,399.91 จุด ลบ 11.93 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39,955 ล้านบาท
ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 771 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น 11,616 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 6,512 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
GDP ใน 1Q59 ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 0.5% qoq
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทะลุ US$46/barrel มาอยู่ที่ US$46.03/barrel
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ทำระดับปิดต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของไทย
ตลาด Nikkei ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันโชวะ
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
วันหยุดคาบเกี่ยวของตลาดหุ้นไทย
ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของไทย
Nikkei ปิดทำการ 3-5 พ.ค. เนื่องในช่วง Golden Week
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 14)
หลัง SET INDEX ปรับฐานหลุดแนว 1,400 จุดวานนี้ หลัง BoJ คงนโยบายการเงิน สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ บวกกับสัปดาห์หน้าเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย ทำให้เกิดแรงขายปิดความเสี่ยงเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอร์ตโบรกเกอร์ ประเมินกรอบแกว่งวันนี้ 1,390-1,405/10 จุด
ขณะที่ประเด็นของ BoJ ไม่มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยในความเป็นของเรา ดังนั้นการย่อตัวลงมาของ SET INDEX กลายเป็นจังหวะของการเข้าสะสมหุ้นเป้าหมาย เพียงแต่ในช่วงสั้น เรายังคงให้น้ำหนักกับหุ้นขนาดกลางที่ผลการดำเนินงานใน 1Q59 มีแนวโน้มเติบโตเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มเป็นทางเลือก เพราะช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวในสัปดาห์หน้า คาดว่าหุ้นขนาดใหญ่จะเริ่มแกว่งออกด้านข้าง พร้อมแนะนำติดตามการเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เพื่อประเมินแรงกดดัน – แรงส่ง ต่อกลุ่มน้ำมัน / ปิโตรเคมี / SCC ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้
สำหรับปัจจัยสำคัญวันนี้ เราให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของไทย หากภาคการบริโภคภาคครัวเรือน และภาคเอกชน ฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือนก.พ. น่าจะเป็นปัจจัยเด่นต่อปัจจัยพื้นฐานการลงทุนในตลาดหุ้นไทย นอกเหนือจากภาคการท่องเที่ยวที่ยังแข็งแกร่ง
Stock Pick of The Day
1. เก็งกำไร THANI: ราคาปิด 3.36 บาท ราคาเหมาะสม 3.66 บาท
a) MBKET คาดว่าด้วยบรรยากาศการลงทุนที่เข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุด จะส่งผลให้ขนาดกลางเคลื่อนไหวโดดเด่นกว่าหุ้นกลุ่มหลัก เนื่องจากภาพตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวออกด้านข้างและมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง
b) THANI ได้ประโยชน์โดยตรงจากภาวะดอกเบี้ยต่ำในประเทศ ส่งผลให้กำไรสุทธิ 1Q59 เติบโต +20% yoy และ +23% qoq เป็น 209 ล้านบาท และคาดว่ากำไรจะเติบโต yoy ทุกไตรมาสในปี 2559 จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ที่เร่งตัวขึ้นใน 2H59 และหาก กนง.ลดดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 11 พ.ค. จะเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ
c) Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ PER2559 เพียง 8.4 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 6% ต่อปี
2. เก็งกำไร ERW: ราคาปิด 4.28 บาท ราคาเหมาะสม 4.80 บาท
a) MBKET คาดว่าผลประกอบการ 1Q59 จะเติบโตสูงทั้ง yoy & qoq เป็น 160-180 ล้านบาท เป็น Positive Surprise กับตลาด และกำไรสุทธิไตรมาสเดียวจะเกือบเทียบเท่ากำไรปี 2558 ที่ 197 ล้านบาท
b) มีโอกาสที่ Consensus จะทบทวนประมาณการกำไรปี 2559 ขึ้น เนื่องจากประเมินกำไรสุทธิปี 2559 ไว้เพียง 320 ล้านบาท
c) แผนการจัดตั้งกอง REIT เป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ และซื้อขายที่ EV/EBITDA 2559 ระดับ 11.4 เท่า ต่ำกว่า CENTEL ที่ 12.4 เท่า และ MINT ที่ 15.9 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง US$238 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$131 ล้าน
เป็นการขายสุทธิแทบทุกตลาด ยกเว้น VEX
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิเป็นวันที่ 5 เร่งขึ้นเป็น 771 ล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิ 2,273 ล้านบาท และกดดัน YTD ซื้อสุทธิลดลงเป็น 13,885 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ มากถึง 6,512 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 15,795 สัญญา และ 8 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิทั้งสิ้น 44,920 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เมื่อ S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เท่ากับ 4.23 จุดใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 4.56 จุด ส่งผลให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคง Long สุทธิ เพิ่มขึ้นเป็น 22,015 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 4 มากถึง 11,616 ล้านบาท รวม 4 วันทำการขายสุทธิ 18,139 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 5,399 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง พันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลง 2.66bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 4.59bps ปิดที่ 1.797%
Short-Selling วานนี้
เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 สูงถึง 1,917 ล้านบาทจากวันก่อนหน้า 876 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิ เน้นกลุ่มพลังงาน และ ICT เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 523 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 260 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR เลือกสะสมกลุ่มพลังานต่อเนื่อง และน่าจะเป็นการ Covered short กลุ่ม ICT
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
GDP ใน 1Q59 ออกมาต่ำกว่าคาด และต่ำสุดในรอบ 2 ปี
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
- GDP ใน 1Q59 ขยายตัว 0.5% qoq ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด +0.7% qoq โดยภาคการบริโภค ยังคงเห็นสัญญาณการขยายตัวที่โดดเด่น รวมถึงการลงทุนในที่อยู่อาศัย เพิ่มขึ้นถึง 14.8% qoq ช่วยชดเชยกับภาคพลังงานที่อ่อนแอ
- ยอดขอสวัสดิการว่างงานใหม่ เพิ่มขึ้น 2.57 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.60 แสนตำแหน่ง แต่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.48 แสนตำแหน่ง
ยุโรป
ราคาบ้านในอังกฤษ เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว: เดือนเม.ย. ราคาบ้านเฉลี่ย เพิ่มขึ้น 0.2?% mom เป็น GBP202,436 ชะลอตัวจากเดือนมี.ค.ที่ราคาบ้านเฉลี่ยเพิ่มึ้น 0.7% mom ทั้งนี้เป็นผลจากการขาดแคลนบ้านในการขาย เมื่อนักลงทุนต่างซื้อบ้านหลังที่ 2 ก่อนที่ภาษีจะปรับเพิ่มขึ้นสำหรับการซื้อบ้านหลังที่ 2 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้าน และราคาบ้านในช่วงสั้นๆ
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
BoJ คงนโยบายการเงิน สวนทางกับที่ตลาดคาด: BoJ ต้องการรอดูผลของการใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่ตลาดคาดว่า BoJ จะต้องออกมาตรการเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาค่าเงินเยนที่แข็งค่า โดย BoJ คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก -0.1% วงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ Yen80 ล้านล้าน พร้อมเลื่อนกรอบเวลาของการเห็นอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2% ออกไปเป็นปี 2560 ถือเป็นการเลื่อนครั้งที่ 4 ของเป้าหมายดังกล่าว
เศรษฐกิจไต้หวันหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3: ใน 1Q59 หดตัว 0.84% yoyจากไตรมาสก่อนหน้าที่ลดลง 0.52% yoy และหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดที่ -0.65% yoy กดดันจากภาคส่งออก หลังจากหดตัวต่อเนื่องในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา หลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัวรวมถึงอุปสงค์สำหรับอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลง
ไทย
สศค.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.3%: สศค.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2559 คาดขยายตัวได้ 3.3% ด้วยช่วงคาดการณ์ที่ 3.0-3.6% จากเดิมคาดขยายตัวได้ราว 3.7% เนื่องจากคาดว่าการส่งออกที่ยังได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน ทำให้มีแนวโน้มขยายตัวต่ำลงจากที่คาดการณ์ครั้งก่อน หรือหดตัวราว 0.7%
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 29 เม.ย. 2559
ข่าวเด่น