นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เผยว่า จากการที่ กปน. รวมทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันรณรงค์ ให้ประชาชนทุกภาคส่วนตระหนักถึงภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้น และใช้น้ำอย่างรู้คุณค่ามากขึ้น สำหรับการใช้น้ำในพื้นที่บริการของ กปน. คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ แม้ทุกปีจะมีปริมาณผู้ใช้น้ำเพิ่มขึ้นจากการขยายเขตบริการให้ประชาชนเข้าถึงน้ำประปาที่สะอาดอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันตามนโยบายรัฐบาล จึงทำให้สถิติการใช้น้ำโดยภาพรวมยังค่อนข้างคงที่ เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำต่อคนลดลง เพราะประชาชนเริ่มหันมาประหยัดน้ำมากขึ้น กปน. ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการบรรเทาวิกฤติภัยแล้งในครั้งนี้ ทำให้มีน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคโดยไม่ขาดแคลน แม้จะมีแรงดันน้ำอ่อนไปบ้างในบางช่วงเวลาก็ตาม
ผู้ว่าการ กปน. ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า ยังสามารถบริหารจัดการได้ถึงเดือนกรกฎาคม แต่จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ฝนจะตกในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม ซึ่งในช่วงแรก ฝนที่ตกอาจจะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อปริมาณน้ำในเขื่อน เนื่องจากสภาพพื้นดินแห้งมาก หลังจากที่พื้นดินชุ่มน้ำเพียงพอแล้ว น้ำฝนที่ตกลงมาจึงจะไหลลงเขื่อนได้ ดังนั้น กปน. จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันประหยัดน้ำต่อไป เพื่อเผื่อไว้ใช้ในปีหน้า
ส่วนปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงนั้น กปน. ได้ดำเนินการตามแผนการบริหารจัดการน้ำช่วงหน้าแล้ง และแก้ปัญหาโดยการกักตุนน้ำไว้ในคลองประปาช่วงที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีคุณภาพดี หากภาวะลิ่มความเค็มรุกขึ้นถึงสถานีสูบน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี ก็จะหยุดสูบน้ำเข้าคลองประปาชั่วคราว เพื่อให้การผลิตจ่ายน้ำประปายังคงเป็นตามปกติ โดยในช่วงหน้าแล้ง ที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2558 กปน. ได้ประสานงานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด สามารถบริหารจัดการได้ดี จนไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการน้ำประปาแต่อย่างใด
ข่าวเด่น