นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการค้าไตรมาสแรก(ม.ค.-มีค. 59) ของไทยไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้นราว 62 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นการส่งออกมูลค่ารวม 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 207 % และการนำเข้ามูลค่ารวมกว่า 943 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 11.3 % ไทยส่งออกสินค้าหลัก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับที่ทำยอดขายเพิ่มได้ถึง 301 % คิดเป็นมูลค่า 1,516 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีปัจจัยหลัก คือ การส่งออกทองคำ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ไดโอด) ซึ่งขยายตัวถึง 212 % คิดเป็นมูลค่า 18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินค้าไทยที่มีความต้องการสูงในตลาดสวิตเซอร์แลนด์อันดับต้นๆ ได้แก่ สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพของไทย ได้รับการยอมรับในความสามารถพิเศษทางการหุงหรือเผาพลอย การขึ้นรูปเครื่องประดับด้วยมือ การเจียระไน รวมถึงการประกอบตัวเรือนที่ปราณีต และจากการที่ราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงและมีการลงทุนในทรัพย์สินมีค่าเพื่อเก็งกำไร จึงส่งผลให้การส่งออกทองคำแท่งจากไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งความต้องการในสินค้าประเภทพลอยและหินสีต่างๆ รวมทั้งเครื่องประดับเงิน ต่างมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ตลาดอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันส่งผลให้ความต้องการอุปกรณ์กึ่งตัวนำเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“เศรษฐกิจภาพรวมของสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และสภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีเสถียรภาพ รัฐบาลสวิสคาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจโดยภาพรวมจะขยายตัว 1.4 % ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามรัฐบาลคาดว่าในปี 2560 ผลผันผวนค่าเงินฟรังก์สวิส จะมีการบรรเทาลง ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจภาพรวมจะขยายตัวขึ้นเป็น 1.8 %” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
สวิตเซอร์แลนด์มีปัจจัยบวกในด้านดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลทำให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น อุตสาหกรรมการคมนาคมและโทรคมนาคมมีแนวโน้มขยายตัว ในขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมการตกแต่งภายใน ไม้และพลาสติกมีแนวโน้มดีขึ้น อุตสาหกรรมทางการแพทย์ โดยเฉพาะการแพทย์สำหรับผู้สูงอายุมีโอกาสในการเติบโตสูง และเนื่องจากในปัจจุบันธุรกิจต่างๆ เข้าสู่โลกยุคดิจิตอลมากขึ้น ความต้องการด้านเทคโนโลยีและบริการด้านไอทีจึงมีเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทางด้านการลงทุนมีบริษัทไทยเข้าไปลงทุนในธุรกิจร้านอาหารไทย และธุรกิจบริการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สปา นวดไทย ขณะที่นักธุรกิจสวิสเข้ามาลงทุนในไทยกว่า 150 บริษัท
ข่าวเด่น