วันนี้ (3พ.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์กรณีการแสดงความคิดเห็นต่อการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ระบุว่ากสม.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พบว่า นับจากวันที่พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 บังคับใช้ ได้มี บุคคล กลุ่มบุคคล แสดงความคิดเห็นในทางสนับสนุน และไม่สนับสนุนต่อร่างรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งมีการ ควบคุมตัว ดำเนินคดีต่อบุคคลที่แสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่บรรยากาศที่ไม่พึงประสงค์ของสังคมไทยซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิรูปประเทศ จากสถานการณ์ที่ปรากฏ กสม. มีข้อเสนอ
1.ขอให้องค์กรที่มีอำนาจหน้าที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นต่อ ร่างรัฐธรรมนูญโดยสุจริต ถึงแม้พ.ร.บการออกเสียงประชามติฯบัญญัติไว้ให้ความหมายหลักว่า “การเผยแพร่จะต้องไม่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือไม่มีลักษณะ รุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม ข่มขู่” แต่การบังคับใช้กฎหมายควรคำนึงถึงบรรยากาศที่เปิดกว้างให้ ทุกฝ่ายผ่อนคลายในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และสร้างบรรยากาศในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศร่วมกัน
2. ขอให้องค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ร่วมกันสร้างความสมานฉันท์ในการปฏิรูปประเทศ โดยควบคุม กำกับ ดูแล การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการตีความ เพื่อมิให้เกิดความไม่เป็นธรรม สร้างความขัดแย้ง ความแตกแยกในสังคม
3.ขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนที่มีความเห็นต่าง ไม่ใช้สถานการณ์การรับฟัง ความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือการเอาชนะหรือความได้เปรียบกัน ซึ่งจะทำลายบรรยากาศ การแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ
4. การรับฟังความเห็นของประชาชน ควรเป็นไปตามหลักการสิทธิมนุษยชนที่ถือปฏิบัติกัน ตามพันธะกรณีกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
กสม. จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ที่แสดงความเห็น จะเคารพสิทธิซึ่งกันและกันที่จะนามาซึ่งความสงบสุขของสังคมและประเทศชาติต่อไป
ข่าวเด่น