ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้แกว่งกรอบแคบ ระหว่าง 1,395-1,410 จุด โดยหุ้นหลักที่ช่วยประคองภาพตลาดรวมได้แก่ AOT/ BBL รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นเด่นเฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม SET INDEX ปิดต่ำกว่า 1,400 จุด อยู่ที่ 1,397.87 จุด ลบ 6.74 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 33,880 ล้านบาท
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 วันทำการ 439 ล้านบาท ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 1,753 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วัน 730 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
• ตลาด Nikkei ปิดทำการวันที่ 3 – 5 พ.ค. เนื่องในเทศกาล Golden week
• ตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันที่ 5-6 พ.ค.
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
• การทยอยประกาศผลการดำเนินงาน 1Q59
• การประชุม กนง. วันที่ 11 พ.ค. เราคาดคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.50%
• การประกาศปรับดัชนี MSCI รอบ 6 เดือน ช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ค.
• ติดตามการประชุม BoE วันที่ 12 พ.ค.
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 16)
การซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่เป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาว เราประเมินว่า SET INDEX จะยังมีภาพของการซึมตัวลงต่อเนื่อง ด้วยกรอบแกว่ง 1,385-1,405 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท อีกทั้งขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน
สำหรับปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมกนง. ณ ปัจจุบันตลาดประเมินการประชุมนัดนี้จะคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.50% แม้ว่าธนาคารพาณิชย์ได้ลด MLR / MRR นำร่องไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม ซึ่งกระแสเงินทุนต่างชาติที่ชะลอตัวในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ก็เพราะปัจจัยดังกล่าวนี้เช่นกัน หากมีความชัดเจนไม่ว่าคงหรือลดอัตราดอกเบี้ย จะทำให้ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติชัดเจน
นอกจากนี้ การประกาศปรับดัชนี MSCI รอบ 6 เดือนในช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ค. ตามเวลาประเทศไทย เราคาดการณ์ ROBINS มีโอกาสเข้าคำนวณดัชนี MSCI Thailand ในรอบนี้ แต่ไม่มีหุ้นไทยถูกตัดออกจากการคำนวณ
ด้วยปัจจัยแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศที่ขาดความโดดเด่น เป็นเพียงปัจจัยเฉพาะด้านเท่านั้น ทำให้ภาพตลาดหุ้นไทย ยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน/ สร้างฐาน กลยุทธ์การลงทุน เน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยสำคัญเฉพาะตัวเป็นสำคัญ
Stock Pick of The Day
1. สะสม BEM: ราคาปิด 6.00 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการ PPP เพื่อพิจารณาสัญญาสัมปทานเดินรถ 1 ช่วงสถานีจากเตาปูน-บางซื่อ ตามที่รฟม.เสนอขอเปลี่ยนเป็น PPP Net Cost ซึ่งหากได้ข้อสรุปจะได้ความชัดเจนว่ารูปแบบการจัดจ้างจะเป็นการเจรจาตรงกับ BEM หรือเปิดประมูล
b) คาดผลประกอบการ 1Q59 เติบโต +14% yoy เป็น 680 ล้านบาท จากการเติบโต yoy ของทุกธุรกิจ ได้แก่ ทางด่วน, รถไฟฟ้าและสื่อโฆษณา และ 2Q59 จะเติบโต yoy & qoq เนื่องจากจะเป็นไตรมาสแรกที่ได้ประโยชน์จากการ Refinance ส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงจาก 6.2% เหลือ 4.8%
a) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาว จากการเติบโตตามระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และซื้อขายระดับ PER2560 ที่ 24.0 เท่า ต่ำกว่า BTS ที่ 33.8 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาซื้อสุทธิ US$86 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$110 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังเลือกใช้ Arbitrage ในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย เป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 439 ล้านบาท เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 2,777 ล้านบาท ผลักดัน YTD ซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นเล็กน้อยเป็น 13,819 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 730 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 7,650 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long บางส่วน กดดันให้ S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงอีกเหลือ 1.33 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.83 จุด ส่งผลให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคง Long สุทธิ ลดลงเล็กน้อยเป็น 22,423 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 1,753 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 27,050 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 2 พันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีก 2.31bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นถึง 3.43bps ปิดที่ 1.854%
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
ดัชนี PMI ภาคการผลิตอังกฤษหดตัวสวนทางกับที่คาด: เดือนเม.ย. เท่ากับ 49.2 จุด ลดลงจากเดือนมี.ค.ที่ 50.7 จุด สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาดที่ 51.2 จุด เป็นการหดตัวต่ำกว่า 50.0 จุด ครั้งแรกในรอบ 3 ปี จากความกังวลต่อการลงประชามติ Brexit ในเดือนมิ.ย.
อียูปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อปีนี้ลง: เฉลี่ยเหลือเพียง 0.2% ซึ่งยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของ ECB เท่ากับ 2.0% และประมาณการเดือนก.พ.ที่คาดไว้ 0.5% ส่วนปี 2560 คาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 1.4% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป EC คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นใน 2H59 สำหรับ GDP ในปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6% และ 1.8% ในปี 2559-2560 ตาลำดับ ลดลงจากการประมาณการเดือนก.พ.ที่ 1.7% ปีนี้ และ 1.9% ในปี 2560
จีน
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนเม.ย.ยังคงต่ำกว่า 50 จุด: ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิต ซึ่งมุ่งเน้นภาค SME เป็นหลัก เดือนเม.ย. เท่ากับ 49.4 จุด ลดลงจากเดือนมี.ค.ที่ 49.7 จุด ซึ่งดัชนีดังกล่าวยังคงต่ำกว่า 50.0 จุด ถือว่าเป็นภาพของการถดถอย ขณะที่ตลาดคาดไว้ที่ 49.9 จุด
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: เป็น 1.75% จากเดิม 2.00% สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นสวนใหญ่ ทั้งนี้เป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ครั้งก่อน อีกทั้งภาคการส่งออกของออสเตรเลียยังคงต่ำกว่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีต นอกจากนี้ความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้ธนาคารกลางต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
อันดับความน่าเชื่อถือของออสเตรเลีย เริ่มมีความเสี่ยง: ตลาดคาดว่า การจัดทำงบประมาณที่ขาดดุลต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2559-2560 จะขาดดุล AS$3.5 หมื่นล้าน และคาดว่ารัฐบาลจะไม่สามารถทำงบประมาณเกินดุลได้ภายใน 5 ปี ขณะที่รมว.คลัง ออสเตรเลีย คาดว่าระดับหนี้สาธารณะจะทำระดับสูงสุดภายใน 6 ปี
อัตราการว่างงานนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง: การจ้างงาน 1Q59 เพิ่มขึ้น 1.2% qoq ดีกว่าที่ Bloomberg consensus คาด +0.6% qoq แต่อัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นเป็นเช่นกันเป็น 5.7% ใน 1Q59 จาก 5.4% ใน 1Q58 และมากกว่าที่ Bloomberg consensus คาด 5.5%
ไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. ทำระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เมษายน 2559 มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 อยู่ที่ระดับ 72.7 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวค่อนข้างช้า โดยยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้ง ราคาพืชผลทางการเกษตร รวมถึงการหารายได้ ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศไม่มาก ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น และกังวลปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าทรงตัวระดับสูง
ครม.ไฟเขียวรวมเดินรถไฟฟ้าเตาปูน – บางซื่อกับสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย: ครม. มีมติเห็นชอบให้มีการรวมเดินรถไฟฟ้าช่วงต่อเชื่อม สถานีเตาปูน-บางซื่อ จำนวน 1 สถานี ระยะทาง 1 กิโลเมตร ที่เป็นส่วนต่อขยายออกมาจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือ MRT ไปไว้กับสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค หลังจากการเจรจากับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งเป็นผู้เดินรถ MRT ไม่ประสบความสำเร็จ โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) เพื่อพิจารณาตัดสินใจว่าจะใช้รูปแบบการเจรจากับ BEM ซึ่งเป็นเอกชนรายเดิม หรือเปิดประมูลใหม่
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 4 พ.ค. 2559
ข่าวเด่น