เมื่อวันที่4พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หารือร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เรื่องโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศและค่าครองชีพ
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯเตรียมหาแนวทางดูแลและลดค่าครองชีพประชาชนกลุ่มผู้รายได้ต่ำกว่า15,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างรายวัน ,พนักงานโรงงานและบริษัท ที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย จนประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น จึงต้องเน้นการเพิ่มมาตรการดูแลค่าครองชีพให้กับคนกลุ่มนี้เบื้องต้นจะส่งเสริมการจัดงานธงฟ้าลดราคาและเพิ่มร้านอาหารในโครงการหนูณิชย์พาชิมตามโรงงานต่างๆ มากขึ้น
แนวทางในการดำเนินการกรมฯจะหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโรงงานอุตสาหกรรม ต่างๆ เพื่อจัดเมนูอาหารราคาประหยัดผ่านร้านอาหารหนูณิชย์ พาชิม ซึ่งจะมีการจำหน่ายทั้งอาหารปรุงสำเร็จเพื่อบริโภคประ จำวัน และอาหารปรุงสำเร็จบรรจุถุง เพื่อซื้อกลับไปบริโภคที่บ้าน โดยจะจำหน่ายในเมนูต่ำกว่า 35 บาท เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างและผู้มีรายได้ต่ำที่ประสบปัญหาค่าครองชีพ
“กรมฯจะขอให้ผู้ค้าอาหารตามโรงงานจัดเมนูอาหารราคาถูก ทั้งที่บริโภคในโรงงาน หรืออาหารปรุงสำเร็จใส่ถุง เพื่อหนุ่มสาวที่ทำงานในโรงงานได้นำไปบริโภคภายในครัวเรือนในราคาที่ต่ำกว่าเมนูละ 35 บาท ซึ่งจะเป็นช่วยเหลือลูกจ้างรายวัน และผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000บาท ซึ่งกำลังประสบปัญหาเรื่องค่าครองชีพโดยกรมฯยังมีแนวทางดูแลค่าครองชีพต่อเนื่องเบื้องต้นคงต้องหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและโรงงานต่างๆ ต่อไป “
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า กรมยังได้ร่วมมือกับผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ 15 ราย จำนวน 13,500 สาขา ขยายเวลาโครงการ เทใจ.. คืนสุข..ต้อนรับเปิดเทอม (Back to School)จากเดิมจัดงานระหว่างวันที่28 เม.ย.-10 พ.ค. 59 เป็น 28 เม.ย.-15 พ.ค. 59 หรือเพิ่มอีก 5 วันเนื่องจากช่วงนี้มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันผู้ปกครองหลายคนพาบุตรหลานไปเที่ยวพักผ่อน จึงไม่มีเวลามาซื้อสินค้า ดังนั้นเพื่อช่วยคลายความกังวลให้ผู้ปกครอง จึงได้เพิ่มเวลาจำหน่ายสินค้าช่วงเปิดเทอม โดยสินค้าที่เกี่ยวกับการเรียน การสอน จะมีการลดราคาตั้งแต่ 20-80% คาดว่าจะสามารถช่วยลดค่าครองชีพได้กว่า 9,000 ล้านบาท
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงภัยแล้ง จากผลสำรวจพบว่า ผักบางรายการมีการปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นตามกลไกตลาด แต่ไม่น่าห่วง เพราะมีผักหลากชนิดที่สามารถเลือกซื้อและทดแทนกันได้ ส่วนเนื้อหมูมีการปรับราคาขึ้นเพราะลูกสุกรโตช้า ผลผลิตเข้าสู่ตลาดลดลง และผู้ประกอบการมีต้นทุนที่สูงขึ้นจากการหาแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเลี้ยง ส่วนไข่ไก่และไก่สดราคาทรงตัว โดยราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเฉลี่ยฟองละ 2.30 บาท และราคาขายปลีกเบอร์ 3 ฟองละ 3 บาท
.jpg)
ข่าวเด่น