ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
เตรียมพร้อมรับมือยูเออีปลี่ยนระบบรับรองอาหารฮาลาล


 


กระทรวงเกษตรฯ เร่งเตรียมความพร้อม หลังยูเออีปรับเปลี่ยนระบบรับรองอาหารฮาลาล ตั้งกฎให้โรงฆ่าสัตว์ขึ้นทะเบียนทั้งหมด พร้อมกำหนดข้อปฏิบัติการเชือดสัตว์ปีกใหม่ หวังขยายส่งออกกลุ่มตะวันออกลาง  
 

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี (UAE) ได้ยุบกระทรวงทรัพยากรและน้ำ และกำหนดให้การควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ฮาลาลเปลี่ยนมาอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานมาตรฐานและมาตรวิทยาของยูเออี หรือ ESMA ทำให้กระบวนการขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นผู้มีอำนาจออกตราฮาลาล และการขึ้นทะเบียนโรงฆ่าสัตว์ของประเทศที่ส่งออกไปยูเออีต้องดำเนินการใหม่ทั้งหมด โดยจะเริ่มรับคำร้องขอขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานรับรองฮาลาลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 - 30 มกราคม 2560 ซึ่งในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ โดยผู้แทน มกอช. ได้หารือร่วมกับผู้แทนหน่วยรับรองระบบงานของกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC Accreditation Center, GAC) เรื่อง การรับรองระบบงานด้านฮาลาล เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า หากไทยจะส่งออกสินค้า

 
 
 
ฮาลาลไปยังยูเออี หน่วยรับรองฮาลาลของไทยต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนกับ ESMA โดยหน่วยรับรองนั้นต้องผ่านการรับรองระบบงานจากหน่วยรับรองระบบงานกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับก่อน โดยขอความร่วมมือ มกอช. ในการตรวจประเมินหน่วยรับรองอาหารฮาลาลของไทยในด้านระบบคุณภาพตามมาตรฐานสากล เนื่องจาก มกอช. เป็นหน่วยงานรับรองระบบงานด้านสินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลจากองค์กรรับรองมาตรฐานการรับรองมาตรฐานระหว่างประเทศแล้ว ขณะที่ GAC จะตรวจประเมินด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับฮาลาลทั้งหมด 

ขณะเดียวกันยูเออียังได้กำหนดข้อปฏิบัติในการเชือดสัตว์ปีกใหม่ตามมาตรฐานฉบับใหม่ ได้แก่ ข้อห้ามการทำสลบก่อนการเชือดสัตว์ ซึ่งเกรงว่าอาจเป็นปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลของไทยไปยังยูเออีและกลุ่มประเทศตะวันออกกลางในอนาคต มกอช. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้หารือแนวทางต่างๆ ในรองรับ อย่างไรก็ตามจากการหารือเบื้องต้นได้รับแจ้งว่า ตามกฎระเบียบดังกล่าวนั้นจะอนุญาตทำสลบในสัตว์อื่นนอกเหนือจากสัตว์ปีก แต่จะอนุโลมการทำสลบในสัตว์ปีก โดยที่ต้องสร้างความมั่นใจให้ได้ว่า “สัตว์ปีกนั้นต้องไม่ตายในระหว่างกระบวนการทำสลบ” และยูเออีอยู่ในระหว่างการปรับปรุงมาตรฐานการทำสลบของยูเออี และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2559 นี้ และยูเออีจะเสนอให้กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับปรับปรุงมาตรฐานกลางดังกล่าวต่อไปด้วย
ด้าน นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า 

กระทรวงเกษตรฯ โดย มกอช.และสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ร่วมหารือและมีความเห็นตรงกันว่าการปรับเปลี่ยนระบบและกฎระเบียบของยูเออีมีความสำคัญ เพราะเป็นมาตรฐานระบบงานของกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ ซึ่งประกอบด้วย 6 ประเทศ ได้แก่ ยูเออี ซาอุดิอาระเบีย คูเวต โอมาน การ์ตา และบาร์เรน นอกจากจะเป็นประทศสำคัญในการนำเข้าอาหารฮาลาล ในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับแล้ว ยังจะส่งผลดีด้านการส่งออกไปประเทศมุสลิมในกลุ่ม OIC  ซึ่งมีสมาชิก 57 ประเทศทั่วโลก

ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมระบบงาน และจะยื่นขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานมาตรฐานและมาตรวิทยาของยูเออี โดยในระหว่างนี้โรงฆ่าสัตว์ที่ขึ้นทะเบียนไว้เดิมกับกระทรวงทรัพยากรและน้ำสามารถส่งออกได้ตามเดิมจนถึงปี 2560

“ถึงแม้ยูเออีจะไม่ใช่ตลาดส่งออกอาหารฮาลาลหลักแต่เป็นตลาดตัวแทนอาหารฮาลาล ไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่ ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกสินค้าฮาลาลของไทย และส่งผลต่อความเชื่อมั่นการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาล รวมถึงภาพลักษณ์การส่งออกสินค้าฮาลาลของไทยในระยะยาวได้ อีกทั้งจำเป็นต้องติดตามการยกร่างปรับปรุงมาตรฐานการทำสลบของยูเออีอีกด้วย” เลขาธิการ มกอช. กล่าว
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 พ.ค. 2559 เวลา : 07:16:15

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:29 am