ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มหลังไฟป่าที่แคนาดาขยายวงกว้าง-บมจ.ไทยออยล์


 


หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ลังงาน บมจ. ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 9 พฤษภาคม 2559

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ไฟป่าในเมืองฟอร์ต แม็คเมอร์เรย์ ประเทศแคนาดา ยังคงทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่เพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน อีกทั้งยังส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของแคนาดาปรับลดลงไปอย่างน้อย 720,000 บาร์เรลต่อวัน

+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือน เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 160,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 240,000 ตำแหน่ง โดยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป


+ ตัวเลขหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์โดย Baker Hughes ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 จำนวน 2 หลุม สู่ระดับ 328 หลุม ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2552

+ แท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทเชฟรอนในไนจีเรีย ซึ่งมีกำลังการผลิต 240,000 บาร์เรลต่อวัน  จำเป็นต้องหยุดดำเนินการผลิตกระทันหัน หลังถูกโจมตีโดยกลุ่มทหารนาม Niger Delta Avengers เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยสาเหตุมาจากการที่ทหารกลุ่มดังกล่าว ต้องการเรียกร้องขอส่วนแบ่งรายได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันเพิ่มเติมจากรัฐบาล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูง สะท้อนจากปริมาณน้ำมันเบนซินในสิงคโปร์ที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศอินโดนีเซียและอียิปต์

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียยังคงทรงตัว แต่ยังได้รับแรงสนับสนุนจากสภาวะตลาดที่ยังเป็นขาขึ้นและอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนาม

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 41-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 42-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล


ปัจจัยที่น่าจับตามอง
 
จับตาสถานการณ์ไฟป่าที่ประเทศแคนาดา หลังล่าสุดไฟยังคงลุกลามและสร้างความเสียหายต่อเนื่อง ส่งผลให้ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 88,000 คน ออกจากพื้นที่ดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง และทำให้บริษัทน้ำมันรวมทั้งสิ้นกว่า 5 รายมีการลดกำลังการผลิตลงไปทั้งสิ้นแล้วกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในลิเบียระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย หลังล่าสุดบริษัทน้ำมันของรัฐบาลฝั่งตะวันออกได้มีการห้ามบริษัทน้ำมันของรัฐบาลในฝั่งตะวันตกในการส่งออกน้ำมันดิบที่ท่าเรือ Hariga โดยหากไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบได้ในเร็วนี้จะทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของประเทศลดลงกว่า 120,000 บาร์เรลต่อวัน

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 543.4 ล้านบาร์เรล (สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 เม.ย.) เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูง
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 พ.ค. 2559 เวลา : 10:14:24

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 4:13 pm