นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจผลกระทบของผู้ปกครองและประเมินการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม จากกลุ่มตัวอย่าง 1,210 ตัวอย่างทั่วประเทศว่า ช่วงเปิดเทอมปีนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัด 49,145.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3% จากปี 2558 ที่มีเม็ดเงินสะพัดมูลค่า 48,040 .18ล้านบาท ถือเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 โดยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าบำรุงโรงเรียน ค่าหนังสือ ค่าชุดนักเรียน รองเท้า และอุปกรณ์การเรียน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 10,064 บาทต่อคน
จากการสำรวจในปัจจุบัน พบว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่มีหนี้สินต่อครัวเรือนสูงอยู่ที่ 208,691.02 บาท เพิ่มขึ้น 24.11% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นหนี้สินมาจากการใช้จ่ายประจำวัน การใช้จ่ายสำหรับบุตรหลาน ค่าผ่อนบ้านและรถยนต์ ค่ารักษาพยาบาล ชำระหนี้เก่า และลงทุน ซึ่งยังมีภาวะตึงตัว ทำให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยอยู่
ทั้งนี้ประเมินว่าการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมนี้จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ประมาณ0.1 - 0.2%ซึ่งค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นปกติ และรวมอยู่ในการคำณวนประมาณการณ์ทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว จึงยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของจีดีพีปี 2559 ขยายตัวอยู่ในกรอบ 3-3.5% แต่จากสัญญาณขณะนี้ มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้เกิน 3% ซึ่งหอการค้าไทยจะปรับประมาณการณ์ตัวเลขจีดีพีอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พ.ค.นี้
.jpg)
ข่าวเด่น