กระทรวงมหาดไทย เดินหน้าแก้ไขปัญหาคนไร้สัญชาติในประเทศไทย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมให้กับคนไทยทุกคนที่มีสิทธิในสัญชาติไทย ให้ได้รับการรับรองสิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
วันนี้ (10พ.ค.59) นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี วันที่ 9 มิถุนายน 2559 ในโอกาสมหามงคลนี้ กระทรวงมหาดไทย จึงได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2544 ที่ทรงมีพระราชดำรัสกับผู้เข้าเฝ้าฯ ณ พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ความสำคัญตอนหนึ่งว่า "...ประชาชนที่อยู่ในประเทศเขามีมานานแล้ว แต่ก็ไม่เป็นคนไทย คือ เขาไม่ถือว่าเป็นคนไทยแท้จริง เขาอยู่และเกิดในเมืองไทย แต่ก็ไม่ได้รับประโยชน์ของความเป็นไทย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องปฎิบัติเหมือนกัน เพราะว่าถ้าหากว่ามีคนอยู่ในเมืองไทยและก็มีความน้อยใจมาก ไม่มีใครเอาใจใส่ ก็จะทำให้ความมั่นคงของประเทศด้อยไป..."
จากกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวข้างต้น กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าการแก้ไขปัญหาคนไร้สัญชาติและปัญหาสถานะบุคคลถือเป็นภารกิจและอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงของกระทรวงมหาดไทย สมควรที่กระทรวงมหาดไทยควรจะได้รับใส่เกล้าฯ นำไปปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติสืบไป ดังนั้น เพื่อเป็นการรับสนองกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดทำสรุปข้อกฎหมายว่าด้วยสัญชาติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และข้อแนะนำในการวินิจฉัยกฎหมายสัญชาติ แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายทะเบียนอำเภอ และนายทะเบียนท้องถิ่นทุกจังหวัด นำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล ตลอดจนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้เกี่ยวข้องได้ศึกษาและนำไปปฎิบัติงานให้เกิดประโยชน์และสัมฤทธิ์ผลทางด้านงานทะเบียนราษฎร งานสัญชาติ รวมถึงเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล
โดยเฉพาะในเรื่องของการวินิจฉัยสัญชาติและการได้มาซึ่งสัญชาติไทยตามกฎหมายที่กำหนดให้บุคคลจะได้สัญชาติไทย โดยหลัก 3 ประการ คือ 1. การสืบสายโลหิตจากบิดาหรือมารดาที่มีสัญชาติไทยอยู่แล้ว 2. หลักดินแดน ซึ่งหมายถึงการที่บุคคลเกิดในประเทศไทยและมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
และ 3. การแปลงสัญชาติจากสัญชาติอื่นเป็นคนสัญชาติไทย หรือขอมีสัญชาติไทยตามสามีที่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับพระราชบัญญัติและระดับกฎหมายของฝ่ายปกครองรวมทั้งมีข้อระมัดระวังเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวหลายประการ การซักซ้อมแนวทางปฏิบัติให้กับผู้ปฏิบัติงานจึงเป็นแนวทางหนึ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้นำมาใช้เพื่อสนับสนุนและขจัดปัญหาอุปสรรคในการทำงานเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความเข้าใจในกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริงได้อย่างรวดเร็ว
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีคนไร้สัญชาติในประเทศไทยมีจำนวน 487,483 รายแบ่งเป็น 1) กลุ่มบุคคลที่เข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต 294,689 ราย 2) กลุ่มบุคคลที่เกิดในประเทศไทยแต่บิดาหรือมารดา เข้ามาประเทศไทยโดยไม่รับอนุญาต 103,979ราย และ 3) กลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ไม่มีสถานะและกลุ่มบุคคลที่ถูกทอดทิ้งไม่สามารถติดตามบิดาหรือมารดาได้ จึงไม่ทราบสัญชาติของตนเอง88,815 ราย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับเร่งแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล โดยดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ให้ถูกต้องเป็นธรรมกับประชาชนผู้มาขอรับบริการ และระมัดระวังอย่าให้เกิดช่องทางการแสวงหาผลประโยชน์หรือการทุจริตทางทะเบียนโดยเด็ดขาด ให้ตระหนักถึงบทบาทอำนาจหน้าที่ที่ต้องช่วยเหลือประชาชนทุกคนที่มีสิทธิในสัญชาติไทยให้ได้รับการรับรองสิทธิความเป็นคนไทยอย่างถูกต้องมีความเสมอภาคเท่าเทียมกับคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้เปิด “คลินิกกฎหมายสัญชาติ” เพื่อให้บริการตอบปัญหา ประสานและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายสัญชาติในระดับอำเภอและจังหวัด และให้บริการข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องแก่ประชาชนที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ กรมการปกครองวังไชยา ถนนนครสวรรค์ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 โทร 0-2281-1224,0-2356-9584 หรือ www.bora.dopa.go.th/nationclinic/.
ข่าวเด่น