ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.)พุ่งขึ้น 222.44 จุด หรือ +1.26% ปิดที่ 17,928.35 จุด ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 4,809.88 จุด เพิ่มขึ้น 59.67 จุด หรือ +1.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,084.39 จุด เพิ่มขึ้น 25.70 จุด หรือ +1.25%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น2.8% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานเกี่ยวกับสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนยอดขายภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015
รวมทั้งยังได้แรงหนุนจากหุ้นอะเมซอนที่พุ่งขึ้น 3.43% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 703.07 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังจากที่นักวิเคราะห์ของแบร์สเติร์นได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นอเมซอนขึ้นสู่ระดับ 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในวอลล์สตรีท จากเดิมที่ประมาณการไว้ที่ 770 ดอลลาร์ เนื่องจากเชื่อว่ากำไรของอเมซอนจะขยายตัวเร็วกว่าที่คาดหมายกันในปัจจุบัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านราคาทองคำในวันอังคาร(10พ.ค.) ขยับลงเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,264.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น