ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
XO โชว์กำไร Q1/59 โตแรง 56.46% สร้างสถิติใหม่


 


XO มาตามนัด โชว์ผลงาน Q1/59 กำไรโตสวย 56.46% อยู่ที่ 34.78 ลบ. นับเป็นไตรมาสที่ผล ประกอบ การดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ส่วนรายได้โตอยู่ที่ 221.12 ลบ. อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 34.74% และคาดจะเติบโตต่อเนื่องใน Q2/59 หลังเปิดเกมรุกธุรกิจ ขยายตลาดอย่างจริงจัง แถมทิศทางออเดอร์จากลูกค้าที่เข้ามามีจำนวนมาก "จิตติพร จันทรัช" ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง เผยโรงงานใหม่คาดจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 3/59 หนุนการรองรับออเดอร์ได้อย่างต่อเนื่อง มั่นใจเป้ารายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 15% ได้สำเร็จ เล็งครึ่งปีหลังอาจมีปรับเป้ารายได้เพิ่ม นอกจากนี้ ยังเป็น 1 ใน 4 บริษัทใน mai ที่ติดโผ ESG 100 การันตีคุณภาพบริษัทฯ ที่มีผลการดำเนินการทางธุรกิจและเพื่อสังคมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
 
          
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้ส่งออกรายใหญ่ในผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ, ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงเครื่องประกอบอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปอื่นๆ เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1/2559 ( สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559) ทำสถิติใหม่เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มา โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.46% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 22.23 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าและการเพิ่ม ขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น โดยรายได้จากการขายสินค้าอยู่ที่ 221.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.79 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26.84% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 174.33 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีปริมาณการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 18.94% และการอ่อนค่าของสกุลเงินบาท 
 
 
 
          
สำหรับต้นทุนขายอยู่ที่ 144.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.48% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า เท่ากับ 34.74% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า 27.69% เนื่องจากการประหยัดจากขนาดและการอ่อนค่าของสกุลเงินบาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 14.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 36.61% โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรายได้จากการขายและการเพิ่มขึ้นของพนักงานฝ่าย ขายเพื่อรุกตลาดอย่างจริงจัง ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 27.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 19.76% โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าคลังสินค้า ค่าบริการอื่นๆ ค่าเสื่อมราคาพาหนะสำนักงาน และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 
         
 "ผลงานไตรมาส 1/59 ที่ออกมาเติบโตโดดเด่นตามคาด ถือว่าเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดตั้งแต่เปิดบริษัทมา รายได้โตเกือบ 26.84% ส่วนกำไรสุทธิโตในสัดส่วนมากกว่าอยู่ที่ 56.46% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 34.74% ซึ่งอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากลูกค้าของบริษัทฯเริ่มมีการรับรู้ราคาสินค้าที่ปรับขึ้นในช่วงที่ ผ่านมาจากปัญหาค่าเงินยูโรในช่วงก่อนหน้านี้ อีกทั้งสามารถขายสินค้าทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขายสินค้าประเภทเครื่องดื่มได้เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ส่งผลให้มีปริมาณการขายในไตรมาส 1/59 โตขึ้น 18.94% หรืออยู่ที่ 3,316 ตัน จากไตรมาส 1/58 อยู่ที่ 2,788 ตัน ขณะที่บริษัทฯ ลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ สิ้นไตรมาส1/59 บริษัทฯ มียอดขายเป็นเงินบาท 60% สกุลเงินยูโรเหลือเพียง 5% สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 35% จากก่อนหน้านี้ยอดขายของบริษัทฯ ส่วนใหญ่ใช้สกุลเงินยูโรเป็นหลัก ทำให้บริษัทฯไม่ต้องกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า และลดความเสี่ยงในเรื่องขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ตามแผนที่วางไว้" นายจิตติพร กล่าว
          
นายจิตติพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมายรายได้ทั้งปี 59 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปี 2558 อยู่ที่ 740.11 ล้านบาท มั่นใจจะเป็นไปตามนั้นได้ไม่ยาก เนื่องจากผลงานไตรมาสแรกของปีที่ออกมาเติบโตเกินเป้าหมายที่ บริษัทฯ วางไว้แล้ว และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาสต่อไปจากนี้ได้ ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์เพื่อปรับเป้าหมายรายได้เพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง นี้อีก จากการรุกการตลาดและการขายอย่างจริงจังทั้งจากลูกค้ารายเก่าและรายใหม่ อาทิ จีน และญี่ปุ่น เนื่องจากเห็นโอกาสในการขายที่เพิ่มขึ้น และมุ่งเน้นการขยายไปยังกลุ่มประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากยุโรปที่เป็นตลาดหลัก ประกอบกับโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง มั่นใจจะสามารถเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3/2559 สนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรืออยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นตัน/1 กะ (8 ชั่วโมง) คิดเป็นยอดขายราว 1,000 ล้านบาท/ปี
 
 
อีกทั้งโรงงานใหม่สามารถเพิ่มการผลิตได้ถึง 2 กะ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้น และนำมาซึ่งผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นในอนาคต
         
 
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็น 1 ใน 4 บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ได้รับการคัดเลือกอยู่ในกลุ่ม ESG 100 การันตีมาตรฐานบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่น ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล การกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและการดำเนินงานของบริษัทฯ ตอบโจทย์การลงทุนที่ยั่งยืน
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 พ.ค. 2559 เวลา : 15:31:03

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:51 am