ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
'เถ้าแก่น้อย'โชว์ยอดขายQ1/59 ทุบสถิติสูงสุด1,018ลบ.เพิ่มขึ้น46%


 


 
บมจ.เถ้าแก่น้อย เปิดประเดิมไตรมาส 1 ปี 2559 โชว์ผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยอดขาย 1,018 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และกำไร 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 213% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตลาดส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีนได้แต่งตั้งผู้นำเข้า 2 รายเป็นตัวแทนจำหน่าย ขณะที่ตลาดในประเทศขยายตัวจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ตลาดสแน๊คฟื้นตัว และส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น
 
          
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) "TKN" ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสาหร่ายแปรรูปในรูปแบบต่างๆ อาทิ สาหร่ายทอดกรอบ สาหร่ายย่าง และสาหร่ายอบ ภายใต้ตราสินค้า "เถ้าแก่น้อย" เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 1/2559 ว่า บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 1,017.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 321.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.2 จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 160.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 213.1 จากงวดเดียวกันของปีก่อน
 
 
โดยยอดขายในประเทศมีอัตราการเติบโตประมาณ 16.5% จากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มชาวจีน เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 85.2% โดยตลาดใหญ่ยังคงเป็นประเทศจีนที่บริษัทได้ทำเริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2558 และได้แต่งตั้งผู้นำเข้าในจีน 2 รายเป็นผู้แทนจำหน่าย ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา "ผลงานไตรมาสแรกของปี 2559 ถือว่าประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้และกำไร โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศที่บริษัทมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีน ทำให้ช่องทางการจัดจำหน่ายมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
 
 
 
สำหรับตลาดในประเทศก็ถือว่ามีการเติบโตจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน ตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศฟื้นตัว โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน และส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทที่เพิ่มขึ้นเป็น 67% ในปีนี้ด้วย ขณะเดียวกันบริษัทยังมีกระบวนการปรับลดอัตราสูญเสียวัตถุดิบ โดยการปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูง ตลอดจนการบริหารจัดการลดค่าใช้จ่ายให้ต่ำลงที่ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าพอใจ"นายอิทธิพัทธ์ กล่าว ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศอยู่ที่ 55% เพิ่มขึ้นจาก52% ในปีก่อน ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการจำหน่ายในประเทศ 
 
          
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออกสินค้ารสชาติใหม่ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนประชาสัมพันธ์สินค้า และกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึงการทำตลาดออนไลน์ ให้ครอบคลุมมากกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางออนไลน์ที่ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนในปัจจุบัน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของสินค้าเถ้าแก่น้อยได้รับรู้ข่าวสารของบริษัทได้มากขึ้น เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง
          
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ณ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ โดยงานก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 70%และคาดว่าจะเปิดดำเนินการในช่วงต้นปี 2560 ส่งผลให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว สอดคล้องกับเป้าหมายของเถ้าแก่น้อยที่ต้องการเป็นแบรนด์ชั้นนำในระดับเอเชีย และโกลบอลแบรนด์ตามแผนที่วางไว้ต่อไป




 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 พ.ค. 2559 เวลา : 16:50:50

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:09 am