นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตามที่มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค. 59 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. โดยแบ่งประเด็นการออกเสียงออกเป็น 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 ให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช... ทั้งฉบับ และประเด็นที่ 2 ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่าเพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดความต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ สมควรกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่า ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
คุณสมบัติของประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันออกเสียง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตออกเสียงมาแล้วไม่น้อยกว่า 90 วัน โดยขั้นตอนของการออกเสียงมีดังนี้ ตรวจสอบรายชื่อของตนเองหน้าหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นยื่นหลักฐานแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรหมดอายุสามารถใช้ได้) หรือบัตรประจำตัวหรือหลักฐานที่ราชการออกให้ อาทิ บัตรประตัวของรัฐ ใบขับขี่ และพาสปอร์ต และเมื่อรับบัตรออกเสียงและพิมพ์ลายนิ้วมือหัวแม่มือขวาที่ต้นขั้วบัตรแล้ว ให้เข้าคูหาทำเครื่องหมาย X ในช่อง “เห็นชอบ” หรือ “ไม่เห็นชอบ” ทั้ง 2 ประเด็น และหย่อนบัตรออกเสียงลงในหีบด้วยตนเอง
ทั้งนี้เพื่อให้การออกเสียงประชามติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริตและเที่ยงธรรม กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้ข้าราชการ และบุคลากรตรวจสอบทะเบียนราษฎร และปรับปรุงข้อมูลทะเบียนราษฎรในส่วนของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เป็นปัจจุบัน รวมทั้งให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินการออกเสียงประชามติ และวางตัวเป็นกลางในการออกเสียงประชามติอย่างเคร่งครัดด้วย
ข่าวเด่น