ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.)ที่ 17,711.12 จุด ร่วง217.23 จุด หรือ -1.21% ดัชนีแนสแดคปิดที่ 4,760.69 จุด ลดลง 49.19 จุด หรือ -1.02% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,064.46 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.96%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนลบ จากแรงเทขายหุ้นของบริษัทในกลุ่มค้าปลีก โดยได้รับแรงกระตุ้นจากแนวโน้มผลประกอบการอันอ่อนแอของ บริษัท มาซีส์ สร้างความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจแบบห้างร้านต่างๆ
ทั้งนี้หุ้นของเมซีส์ ดิ่งลงถึง 15.2 % หลังปรับลดประมาณการผลประกอบการในปี 2016 ความเคลื่อนไหวนี้ฉุดให้ วอล-มาร์ต ปิดลบ 2.8 %ส่วนเบสต์บาย, ทาร์เก็ต และนอร์ดสตรอม ปิดลบ 4 % โดยทั้งหมดมีกำหนดเผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 3.5% เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาทองคำในวันพุธ(11พ.ค.) ปิดบวก จากแรงหนุนของดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,275.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น