สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 12 พฤษภาคม 2559
สภาวะตลาดวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,268.93-1,278.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,250 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.25 น.ของวันที่ 12/05/16)
แนวโน้มวันที่ 13 พฤษภาคม 2559
คณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารจีน (CBRC) เปิดพบว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารพาณิชย์ของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.75% ณ สิ้นเดือนมีนาคม เทียบกับ 1.67% ณ สิ้นปี 2015 ทั้งนี้ NPL ของระบบธนาคารมีมูลค่า 2.1355 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.27 ล้านล้านหยวนในไตรมาสก่อน ขณะที่คาดว่าจีนจะประกาศข้อมูลการให้สินเชื่อประจำเดือนเมษายนในอีกไม่กี่วัน และนักเศรษฐศาสตร์
โดยผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า การให้สินเชื่อใหม่จะชะลอตัวลงอย่างมาก ประเด็นดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงและกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ทองคำได้แรงหนุนเพิ่มจาก ธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงก์เปิดเผยว่า การนำเข้าทองคำของอินเดียอาจทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ท่ามกลางการลักลอบนำเข้าอย่างแพร่หลายเพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีของรัฐบาลต่อการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศอย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดทองคำมีท่าทีระมัดระวังการไล่ซื้อทองคำก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐ
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเมษายน นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ยอดค้าปลีกอาจเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเมษายน หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมีนาคม กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเมษายน นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ดัชนี PPI ทั่วไปอาจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเมษายน หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนมีนาคม
เบื้องต้นประเมินว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะค่อยๆขยับขึ้นเข้าทดสอบใกล้ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรออกมา ซึ่งประเมินแนวรับระยะสั้นไว้ที่ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับสำคัญที่ 1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำรอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงมาสู่โซนดังกล่าว
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,263 หรือ 1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,287-1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,263 (21,090บาท) 1,257 (20,990บาท) 1,248 (20,840บาท)
แนวต้าน 1,287 (21,500บาท) 1,296 (21,650บาท) 1,307 (21,930บาท)
ข่าวเด่น