‘พีทีจี เอ็นเนอยี’ ฟันกำไรไตรมาส 1 ปี 59 ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.8% หลังเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุน และคลังน้ำมัน คงเป้า EBITDA โต 30% โกยยอดขายพุ่ง 30-40% เดินหน้าขยายปั๊มต่อเนื่อง
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 79.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 165 ล้านบาท และมีรายได้รวม 13,622 ล้านบาท โดยที่กำไรสุทธิของบริษัทฯเติบโตขึ้น เนื่องจากการลดลงของต้นทุนน้ำมันสำเร็จรูป และต้นทุนขนส่งประกอบกับการมีสถานีบริการ รถบรรทุกน้ำมัน และคลังน้ำมันเป็นของตนเอง ทำให้บริษัทฯ มีความคล่องตัว และสามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนการขาย และการบริการ ในไตรมาส 1/2559 เท่ากับ 12,297 ล้านบาท ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2559 สูงถึง 1,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ในขณะที่การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯยังคงเป้าปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 30-40% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงการตั้งเป้าเพื่อเพิ่มจำนวนสถานีบริการ โดยคาดว่าจะมีการขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ (สถานีบริการน้ำมัน COCO) อีก 300 สถานี และสถานีแก๊สแอลพีจีอีก 50 สถานี รวมถึงการขยายสถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่ม 25-30 สถานี เพื่อเพิ่มความหลากหลายในสถานีบริการและรองรับความต้องการของลูกค้า ด้วยงบลงทุนในปีนี้ 4,500 ล้านบาท และพร้อมสนับสนุน SMEs ให้เข้ามาประกอบกิจการในสถานีบริการ รวมถึงการเพิ่มยอดขายผ่านบัตร PT Max Card ด้วยการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ลูกค้าผ่านบัตรสมาชิกมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนสมาชิกเท่ากับ 5.6 ล้านสมาชิกในปลายปี 2559จากปัจจัยการดำเนินงานข้างต้น โดยคาดว่า EBITDA ของบริษัทฯจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วไม่น้อยกว่า 30%
“เราให้ความสำคัญกับคุณภาพของน้ำมัน และการสร้างความรับรู้ในแบรนด์พีทีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด 671 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 17.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และที่สำคัญเรายังให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุน และคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และดำเนินตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ เพื่อการเติบโตของสถานีบริการอย่างต่อเนื่อง จึงจะทำให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจากจำนวนสถานีบริการ และปริมาณการจำหน่ายน้ำมันต่อสถานีต่อเดือนที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้ และผลกำไรให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้” นายพิทักษ์กล่าว
ข่าวเด่น