พม. ออกหลายมาตรการช่วยลดค่าใช้จ่ายผู้มีรายได้น้อย ทั้งตรึงอัตราดอกเบี้ยรับจำนำต่ำสุดที่ร้อยละ ๐.๒๕ บาทต่อเดือน ปลอดดอกเบี้ยรับจำนำนาน ๒ เดือน เฉพาะเครื่องมือทางการเกษตร และยืดเวลาตั๋วจำนำเป็น ๔ เดือน ๖๐ วัน
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า สถานธนานุเคราะห์ เป็นโรงรับจำนำของรัฐบาลในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำหน้าที่เป็นแหล่งพึ่งพิงและช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงินให้กับประชาชน ผู้มีรายได้น้อยทั้งในชุมชนเมืองและชนบทตามนโยบายของรัฐบาลมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเศรษฐกิจ ที่มีภาวะชลอตัว ประกอบกับใกล้ช่วงเปิดเทอมการศึกษา ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสำหรับ บุตรหลานเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น สถานธนานุเคราะห์ จึงได้มีนโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยรับจำนำไว้ที่ระดับเดิม ตั้งแต่ร้อยละ ๐.๒๕ บาทต่อเดือน ถึงร้อยละ ๑.๒๕ บาทต่อเดือน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ ดังนี้ ๑) เงินต้นไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๐.๒๕ บาทต่อเดือน ๒) เงินต้น ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๐.๗๕ บาทต่อเดือน ๓) เงินต้น ๑๐,๐๐๑ – ๒๐,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๐๐ บาทต่อเดือน ๔) เงินต้น ๒๐,๐๐๑ – ๑๐๐,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕ บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินโครงการยืดระยะเวลาตั๋วจำนำเพิ่มขึ้นอีก ๓๐ วัน จากเดิม ๔ เดือน ๓๐ วัน เปลี่ยนเป็น ๔ เดือน ๖๐ วัน สำหรับผู้มาใช้บริการระหว่างวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานธนานุเคราะห์ ยังได้ดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งเฉพาะสำหรับเกษตรกร โดยรับจำนำเครื่องมือทางการเกษตร เช่น เครื่องสูบน้ำ เครี่องปั่นไฟ เครื่องตัดหญ้า และเครื่องพ่นยาฆ่าแมลง เป็นต้น ภายในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙ โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำเป็นระยะเวลา ๒ เดือน อีกทั้งได้ดำเนินโครงการ CSR โดยแจกทุนการศึกษาแก่บุตรผู้มาใช้บริการรับจำนำสำหรับลูกค้าที่ยังมีทรัพย์จำนำอยู่ที่ สถานธนานุเคราะห์ในระหว่างขอรับทุนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า ๑ ปี สาขาละ ๓ ทุน ทุนละ ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๓๕ สาขา รวมจำนวนเงิน ๓๑๕,๐๐๐ บาท
ข่าวเด่น