นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังจากประชุมคณะทำงานด้านการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศ (D4) ภายใต้คณะกรรมการภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ (ประชารัฐ) เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 ว่าได้หารือร่วมกับภาคเอกชนซึ่งนำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานร่วมของคณะทำงาน เพื่อติดตามสถานการณ์การส่งออกอย่างใกล้ชิด ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ส่งสัญญาณฟื้นตัว พลิกกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 0.9
การประชุมได้มีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินงานในประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ-เอกชน (กรอ. ด้านเศรษฐกิจ) ในประเทศ CLMV นำโดยเอกอัครราชทูตและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในประเทศนั้นๆ เพื่อใช้เป็นเวทีรวบรวมปัญหาอุปสรรคการค้าการลงทุน และผลักดันส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาด โดยเริ่มนำร่องที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีการประชุมหารือ กรอ. เศรษฐกิจเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อีกทั้งมีการเตรียมการจัดตั้ง Viet-Thai Commercial Center ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างผู้ประกอบการเวียดนามและไทย เพื่อเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าแบรนด์ไทยและเวียดนาม คุณภาพสูงส่งตรงถึงมือผู้บริโภคชาวเวียดนาม
การพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs แบบพี่จูงน้อง โดยภาคเอกชนที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงที่เข้มแข็งในต่างประเทศ อาทิ บริษัทเบอร์ลียุกเกอร์ (BJC) บริษัท SCG และธนาคารกรุงเทพ รับจะเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาต่อธุรกิจ SMEs อย่างใกล้ชิดแบบครบวงจรในตลาดที่แต่ละบริษัทเชี่ยวชาญ โดยกำหนดจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าที่เป็นเครือข่ายของบริษัท และพาไปเจาะตลาด CLMV ในเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม 2559 นี้
การจัดตั้งกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชน-สถาบันการศึกษา โดยมีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นแกนกลางจัดทำ Knowledge Tank บูรณาการข้อมูลการค้าการลงทุนในต่างประเทศของทุกหน่วยงาน เชื่อมโยงการทำงานทุกภาคส่วนให้ส่งเสริมกันและกันยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ คณะทำงานฯ ได้ขอให้กระทรวงการคลังเร่งรัดดำเนินการปรับปรุงมาตรการภาษี ที่เป็นอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการค้าการลงทุนกับประเทศ CLMV อาทิ การเร่งเจรจาจัดทำ Double Taxation Agreement กับกัมพูชา และการยกเว้นภาษีรายได้จากเงินปันผลของนักลงทุนไทยในต่างประเทศ
ในส่วนของการผลักดันการค้าชายแดนให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปสู่เป้าหมาย 1.7 ล้านล้านบาท กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างหารือเพื่อพิจารณาขยายมูลค่าสินค้านำติดตัว (Hand Carry) ที่ด่านการค้าชายแดนของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ให้สามารถติดตัวไปได้มากกว่า 200 เหรียญสหรัฐฯ ตลอดจนจะผลักดันให้ขยายเวลาทำการของด่านการค้าชายแดนอีก 11 ด่านสำคัญ โดยจะเริ่มที่ด่านช่องสะงำ อ. ภูสิงค์ จ.ศรีสะเกษ เป็นแห่งแรก ซึ่งจะขยายเวลาเปิด-ปิดเป็น 06.00-24.00 น.
“กระทรวงพาณิชย์มีแผนดำเนินกิจกรรมเจาะลึกตลาด CLMV เป็น Series ต่อเนื่องเข้มข้น ได้แก่ การสร้างโอกาสพบปะระหว่างนักธุรกิจชั้นนำระดับ Cream of Cream ของไทยและกัมพูชา ซึ่งมีความสัมพันธ์กับเครือข่ายผู้มีอำนาจตัดสินใจระดับประเทศ ในระหว่างวันที่ 26-28 พฤษภาคม 2559 เพื่อการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง นำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน เป็น Indirect Approach ในการขยายการค้าการลงทุน การจัดงาน CLMVT Forum 2016: Toward a Shared Prosperity ระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายน 2559 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพมหานคร เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำระดับสูงของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ รวมทั้งเหล่า Startups ของกลุ่มประเทศ CLMVT ทั้งด้านการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว พร้อมยกระดับเป็นเวทีความร่วมมือเพื่อก้าวสู่ตลาดโลกและการเจริญเติบโตไปด้วยกัน ตลอดจนการอบรมหลักสูตร CLMVT Executive Program ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายนักธุรกิจและภาครัฐระดับสูงของไทยและประเทศในภูมิภาค กำหนดจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2559” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
.jpg)
ข่าวเด่น