ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา ภาพรวมถือว่ายังคงแข็งแกร่ง หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี / อาหาร ยังคงได้รับความสนใจจากตลาด รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ MSCI ขณะที่ SCC / PTT กดดันตลาด ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,394.69 จุด ลบ 4.62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,234 ล้านบาท
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 4,116 ล้านบาท แต่หากหักรายการ Big Lot หุ้น CPALL คาดว่าต่างชาติขายสุทธิราว 500 ล้านบาท และ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 4,736 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- การประกาศ GDP ใน 1Q59 ของไทย ตลาดคาด 2.8% yoy ช่วงเช้าก่อนเปิดตลาดวันนี้
- ติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อประเมินกระแสเงินทุนต่างชาติ
- ตลาดหุ้นจีนและฮั่งเส็ง เผชิญแรงกดดัน หลังตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ชะลอตัวจากเดือนมี.ค.และต่ำกว่าคาดทุกรายการ
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 2)
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้จะขึ้นอยู่กับตัวเลข GDP ใน 1Q59 ของไทยที่จะประกาศในช่วงเช้าก่อนเปิดตลาด Bloomberg consensus คาดไว้ 2.8% yoy เท่ากับ 4Q58
- หากตัวเลขออกมาเท่ากับที่ตลาดคาด SET INDEX จะแกว่งในกรอบแคบ 1,390-1,405 จุด กลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี ยังคงเด่น
- แต่หากตัวเลขออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด SET INDEX จะมีโอกาสกลับมายืนเหนือ 1,400 จุด ด้วยการฟื้นตัวของกลุ่มธนาคาร และ Domestic Play พร้อมกระแสเงินทุนต่างชาติที่จะไหลกลับแน่นขึ้น
- หรือหากออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด SET INDEX มีโอกาสซึมตัวลงทดสอบ 1,380-1,385 จุดอีกครั้ง กดดันด้วยกลุ่มธนาคาร / Domestic Play อีกครั้ง ขณะที่แรงขายจากต่างชาติในกรณีจำกัดเช่นกัน
ทั้งนี้เราให้น้ำหนักกับกรณีที่ 1 และ 2 เป็นสำคัญ โอกาสเกิดกรณีที่ 3 เป็นไปอย่างจำกัด กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนเน้นลงทุน/เก็งกำไร เป็นรายตัว (Stock Selection) มากกว่ามองภาพรวม เพราะแม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะแข็งแกร่งกว่าในภูมิภาค แต่บรรยากาศโดยรวมทั่วโลกยังคงเปราะบาง
Stock Pick of The Day
1. เก็งกำไร TPIPL: ราคาปิด 2.58 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) TPIPL จะรายงานงบ 1Q59 ในวันนี้ โดยคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติจะเติบโตสูงทั้ง yoy และ qoq เป็น 400-500 ล้านบาท และเชื่อว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกหลังรายงานผลประกอบการ เนื่องจากจะส่งผลให้ตลาดเชื่อมั่นมากขึ้นต่อกำไรของธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ
b) แผนการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลท. หลังยื่น Filing ให้กับกลต.แล้ว จะเป็นปัจจัยบวกในระยะกลางและเชื่อว่าจะช่วยเพิ่ม Market Cap ให้กับบริษัทแม่คือ TPIPL อย่างมีนัยสำคัญ หลังบริษัทลูกเข้าซื้อขายในตลท.ภายในปีนี้
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2559 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +600% yoy เป็น 2,879 ล้านบาท และราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี โดยซื้อขายที่ระดับ PBV2559 เพียง 0.8 เท่า
2. เก็งกำไร PTTGC: ราคาปิด 60.50 บาท ราคาเหมาะสม 70 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจปิโตรเคมีที่คาดว่าราคาผลิตภัณฑ์จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว และผลักดันให้กำไรสุทธิ 2Q59 เติบโต qoq หลังโรงงาน PTTPE ที่ปิดซ่อมบำรุงใน 1Q59 กลับมาเดินเครื่องแล้ว
b) มีโอกาสบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมันใน 2Q59 ช่วยหนุนกำไรสุทธิให้เติบโตสูง โดย QTD ใน 2Q59 ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวขึ้น +21% เป็น US$44.66/barrel จากสิ้นไตรมาส 1 ที่ US$36.94/barrel
c) ราคาหุ้นยัง Laggard โดย YTD เพิ่มขึ้น +21% เทียบกับ IVL +51% และกลุ่มปิโตรเคมี +26% รวมทั้ง Valuation ยังถูกซื้อขาย PBV2559 เพียง 1.1 เท่า ต่ำกว่า IVL ที่ 1.8 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิต่อเนื่อง เร่งขึ้เนป็น US$433 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$81 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้น หลังหักรายการ Big lot หุ้น CPALL
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 4,116 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 6,455 ล้านบาท แต่เนื่องจากวันศุกร์ที่ 13 พ.ค. มีรายการ Big Lot หุ้น CPALL มูลค่า 4.6 พันล้านบาท ทำให้ต่างชาติน่าจะขายสุทธิราว 500 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิ เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 4,736 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาปิดสถานะ Long ที่มีอยู่ กดดันให้ยอดสุทธิ QTD ที่มีสถานะ Long สุทธิลดลงเหลือ 1,952 สัญญา เมื่อ S50M16 ยังคงปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 2 เท่ากับ 0.10 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 0.43 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ เป็นวันที่ 2 อีก 4,846 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 13,443 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยกลับมาลดลงอีกครั้ง พันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 1.90bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.67bps ปิดที่ 1.831%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 1,102 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าที่ 1,126 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ อย่างหนาแน่น
กลุ่มอาหาร – ขนส่ง เป็นกลุ่มหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 1,108 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 1,567 ล้านบาท โดยกลุ่มธนาคารยังคงถูกลดน้ำหนักต่อเนื่อง แต่กลุ่มอาหาร / ขนส่ง กลับเป็นเป้าหมายของการลงทุนของ NVDR อย่างโดดเด่น
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 16 พ.ค. 2559
ข่าวเด่น