ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มหลังอุปทานมีแนวโน้มสู่ภาวะตึงตัวมากขึ้น - บมจ.ไทยออยล์
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อเนื่อง หลังอุปทานที่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะตึงตัวมากขึ้น
-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดยังคงความกังวลด้านอุปทานที่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะตึงตัวมากขึ้น โดยในเดือน พ.ค. 59 มีการคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณอุปทานน้ำมันดิบโลกหายไปจากตลาดรวม 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ ปริมาณการอุปทานน้ำมันดิบที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นผลจากการผลิตในลิเบียที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเหตุความขัดแย้งในประเทศ ขณะที่การผลิตในแคนาดาคาดว่าจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวันจากสถานการณ์ไฟป่าในเมืองฟอร์ต แม็คเมอร์เรย์ ส่วนการผลิตในไนจีเรียคาดว่าจะลดลง 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเหตุการณ์โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันดิบในประเทศไนจีเรียที่ส่งผลให้ท่อขนส่งน้ำมันดิบในประเทศได้รับความเสียหาย นอกจากนั้น ยังมีปริมาณอุปทานที่คาดว่าจะหายไปจากประเทศอื่นๆ อีก อาทิเช่น ประเทศ อิรัก ซาอุดิอาระเบียและคูเวต
-อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งในประเทศลิเบียมีแนวโน้มที่คลี่คลายลง หลังมีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างบริษัทน้ำมันดิบฝั่งตะวันตกและตะวันออก ณ กรุงเวียนนา ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ลิเบียมีแนวโน้มที่จะสามารถกลับมาส่งออกผ่านท่าเรือ Harigaได้ตามปกติ หลังไม่สามารถทำการส่งออกได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
-โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะตึงตัวเร็วกว่าที่คาดเนื่องจากปริมาณการผลิตในหลายประเทศที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ตลาดจะกลับมาอยู่ในภาวะน้ำมันล้นตลาดอีกครั้งหนึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017เนื่องจากราคาน้ำมันที่ระดับ 50ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะกระตุ้นให้บริษัทน้ำมันเพิ่มการสำรวจและผลิตน้ำมัน
-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านของสหรัฐฯ ประจำเดือน พ.ค. 59 อยู่ในระดับทรงตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ที่ระดับ 58 จุด ต่ำกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 59จุด อย่างไรก็ตาม ค่าดัชนีที่สูงกว่า 50ยังคงบ่งชี้ถึงมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณอุปสงค์ในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในภาวะล้นตลาดหลังหลายโรงกลั่นมีการผลิตน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกของประเทศจีนมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงน้ำมันเบนซินที่เก็บอยู่ในเรือที่ลอยลำอยู่ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะขายออกเมื่อราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงสนับสนุนของอุปสงค์ในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้าและภาคการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ43-49เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-50เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ความไม่สงบในประเทศไนจีเรียที่ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบเดือน พ.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ 1.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลัง Shell อพยพคนงานออกจากแหล่งผลิตน้ำมัน Bonga(กำลังการผลิต 90,000 บาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากถูกโจมตี ขณะที่ Chevronเองก็หยุดการผลิตน้ำมันในแหล่ง Okan (กำลังการผลิต 35,000บาร์เรลต่อวัน) ด้วย
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะลดลงต่อหลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายงานโดย EIAณ วันที่ 6พ.ค. ปรับตัวลดลงกว่า 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 8.80ล้านบาร์เรลต่อวัน
จับตาว่าการผลิตน้ำมันดิบแคนาดาจะกลับมาเป็นปกติได้เร็วแค่ไหน หลังสถานการณ์ไฟป่าที่ประเทศแคนาดาเริ่มคลี่คลาย ซึ่งก่อนหน้านี้เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทน้ำมันรวมทั้งสิ้นกว่า 11รายมีการลดกำลังการผลิตลงไปกว่า 1ล้านบาร์เรลต่อวัน
โดยหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 17 พ.ค. 2559
ข่าวเด่น