หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดขึ้นทดสอบ 1,400 จุด หลัง GDP ใน 1Q59 ขยายตัว 3.2% yoy ดีกว่าที่ตลาดคาด 2.8% แต่ก็เผชิญกับแรงขายทำกำไรที่มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีและกลุ่มขนส่งที่ขึ้นมาเด่นในสัปดาห์ก่อน ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,397.63 จุด บวก 2.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,213 ล้านบาท
ต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 578 ล้านบาท แต่คง Short สุทธิใน SET50 Index Fututues เป็นวันที่ 2 อีก 5,637 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 อีก 2,947 ล้านบาท แม้ว่า GDP ไทยจะออกมาดีกว่าคาดก็ตาม
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ติดตามการประชุมครม.วันนี้ อาจมีการพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง
- ติดตามค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้ประเมินกระแสเงินทุนต่างชาติ
- TRUE บอร์ดมีมติไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900MHz
- หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ MSCI มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 3)
เรายังคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลางถึงบวก” หลัง GDP ใน 1Q59 ของไทยออกมาดีกว่าคาดจากการฟื้นตัวของภาคการบริโภคภายในประเทศ และสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในช่วงที่เหลือของปีนี้จะขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เพียงแต่ SET INDEX อาจยังไม่ผ่าน 1,400 จุดในช่วงนี้ เพราะ 1) กระแสเงินทุนต่างชาติอาจรอดูรายงานการประชุมเฟดเมื่อเดือนเม.ย. ซึ่งจะเปิดเผยในคืนวันพรุ่งนี้ 2) ขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุนการลงทุนในช่วงสั้น 3) ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม Downside risk ของ SET INDEX เป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน เพราะด้วยการเติบโตของกำไรสุทธิในปีนี้ของตลาดหุ้นไทย บวกกับภาพรวมเศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแกร่ง การย่อตัวลงมาของหุ้นหลัก เชื่อว่าสถาบันทั้งในและต่างประเทศจะทยอยเข้าสะสมหุ้นเป้าหมาย
ภาพตลาดจะกลับมาเป็นบวกมากขึ้น หาก SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,400 จุด ซึ่งเราประเมินว่าหากกลุ่มธนาคารเกิด Technical rebound ก็น่าจะเป็นตัวแปรที่สำคัญในรอบนี้
ช่วงนี้ เรายังคงแนะนำ “เก็งกำไรรายหลักทรัพย์” ต่อเนื่อง
Stock Pick of The Day
1. เก็งกำไร KBANK: ราคาปิด 160 บาท ราคาเหมาะสม 182 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคาร จะเข้าสู่การฟื้นตัว หลัง GDP 1Q59 ขยายตัว +3.2% yoy ออกมาดีกว่าคาดการณ์ที่ +2.8% yoy
b) เชื่อว่า NPL จะเข้าสู่จุด Peak ใน 2Q59 และมีทิศทางลดลงใน 2H59 ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการฟื้นตัวเด่นในช่วงครึ่งหลังของปีจากการตั้งสำรองที่ลดลง และส่งผลให้กำไร 2H59 กลับเข้าสู่การเติบโต
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคาร เนื่องจากเชื่อว่าราคาหุ้นที่ Underperform ตลาด YTD ได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว และ Valuation ที่ค่อนข้างต่ำจะช่วยจำกัด Downside Risk ของราคาหุ้น เนื่องจากซื้อขายระดับ PBV2559 เพียง 1.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังอดีตที่ราว 1.5-1.6 เท่า
2. เก็งกำไร PTTGC: ราคาปิด 60.25 บาท ราคาเหมาะสม 70 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีจะ Outperform ตลาดในวันนี้ จาก Sentiment บวกหลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจาก Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบขึ้น และให้ความเห็นว่าตลาดน้ำมันได้ผ่านพ้นภาวะอุปทานส่วนเกินแล้ว
b) คาดผลประกอบการ 2Q59 จะเติบโต qoq หลังโรงงาน PTTPE ที่ปิดซ่อมบำรุงใน 1Q59 กลับมาเดินเครื่องแล้ว และมีโอกาสบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมันใน 2Q59 เป็นอีกปัจจัยหนุนกำไรสุทธิ โดย QTD ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวขึ้น +23% QTD เป็น US$45.58 จากสิ้น 1Q59 ที่ US$36.94
c) ยัง Laggard โดย YTD ราคาหุ้น PTTGC +20.5% เทียบกับ IVL +45.5% และกลุ่มปิโตรเคมี +23.8% รวมทั้ง Valuation ยังถูก ซื้อขาย PBV2559 เพียง 1.1 เท่า ต่ำกว่า IVL ที่ 1.8 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิต่อเนื่อง แต่ลดลงเหลือ US$60 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$433 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิ Futures แต่เลือกซื้อหุ้นรายตัว
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 578 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 4,694 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 6,455 ล้านบาท ส่งผลให้ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ 12,059 ล้านบาทช่วง YTD
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิ เป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 5,637 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยเปิดสถานะ Short อีกครั้ง และกดดันให้ยอดสุทธิ QTD กลับมามีสถานะ Short สุทธิอีกครั้ง 3,685 สัญญา เมื่อ S50M16 ยังคงปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 3 กว้างขึ้นเป็น 0.68 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 0.10 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ เป็นวันที่ 3 แต่ชะลอตัวลงเหลือ 2,947 ล้านบาท รวม 3 2 วันทำการขายสุทธิ 16,390 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 2 พันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 1.90bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.67bps ปิดที่ 1.831%
Short-Selling วานนี้
ลดลงเหลือ 774 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,102 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 กลับมาเน้นกลุ่มค้าปลีก – พลังงาน แรงขายในกลุ่มหลักเริ่มจำกัด
การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิอีก 600 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,108 ล้านบาท โดยแรงขายในกลุ่มธนาคารลดลงต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มค้าปลีกกลับมาเป็นเป้าหมายในการสะสมของ NVDR เป็นจุดที่น่าสนใจ
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 17 พ.ค. 2559
ข่าวเด่น