บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEL) โชว์ผลงานไตรมาส 1/59 กำไรสุทธิ 59 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 357 ล้านบาท ด้านซีอีโอ "ธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์" มองแนวโน้มไตรมาส 2/59ยังสดใสต่อเนื่อง หลังอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้น มีงานในมือ (Backlog) รอรับรู้รายได้แล้วกว่า 1,800 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ มั่นใจช่วยผลักดันรายได้ปีนี้แตะ 2,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย
นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GEL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2559 เติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2558 โดยมีรายได้รวมที่ 357 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากไตรมาส 4/2558 ที่มีรายได้รวม 273 ล้านบาท แม้ว่าหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจะมีรายได้ลดลงก็ตาม
"สาเหตุที่ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลมาจากบริษัทฯ เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานในช่วงต้นปี 2559 และการปรับตัวของภาคธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่มีทิศทางดีขึ้น แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมลดลง ซึ่งสาเหตุหลักจากการที่บริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทย่อยเมื่อในช่วงไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจ ส่งผลให้มีการรับรู้รายได้ลดลง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและสภาวะการแข่งขันด้านราคาขายสูง และลูกค้าบางรายชะลอโครงการก่อสร้างหรือชะลอการส่งมอบงาน" นายธิติพงศ์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/2559 คาดว่าจะเติบโตขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จำนวนมูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทฯ ปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 1,800ล้านบาท ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ อีกทั้งการผลักดันให้ทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นด้วยคุณภาพที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและการขยายฐานผลิตภัณฑ์ไปยังภาคตะวันออก
รวมถึงกลยุทธ์ในการบริหารงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในองค์กรอีกด้วย จากประเด็นดังกล่าวคาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7-8% จากปีก่อนที่ทำได้5%
"บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจด้วยการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องจากโรงงานปัจจุบันที่ได้ทำการผลิตเต็มกำลังการผลิตแล้ว โดยจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ อีกทั้งเกิดโอกาสในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และปัจจัยสนับสนุนจากภายนอกที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ รวมถึงการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากรภายในที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งและนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ต่อไป"นายธิติพงศ์ กล่าว
ข่าวเด่น