ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) ที่ 17,529.98 จุด ลดลง 180.73 จุด หรือ -1.02% ดัชนีแนสแดคปิดที่ 4,715.73 จุด ลดลง 59.73 จุด หรือ -1.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,047.21 จุด ลดลง 19.45 จุด หรือ -0.94%
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงแรงเหตุนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจหลายอย่างของสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง ทั้งตัวเลขผลผลิตทางอุตสาหกรรม ราคาผู้บริโภคและจำนวนบ้านใหม่ที่เริ่มทำการก่อสร้าง
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2013 และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนเม.ย. เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และอาหาร
ประกอบกับ นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เฟดควรพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวไปสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และตลาดแรงงานอยู่ในภาวะตึงตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 48.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 49.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในด้านของราคาทองคำในวันอังคาร(17พ.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,276.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น