ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          SET INDEX วานนี้เปิดยืนเหนือ 1,400 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มพลังงาน ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ และการฟื้นตัวของกลุ่มธนาคาร รวมถึง ADVANC ทำให้ภาพรวมกลับมาดูดีขึ้น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,406.57 จุด บวก 8.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,940 ล้านบาท
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 651 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 4,255 สัญญา แต่คงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 2,285 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          ราคาพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีปรับตัวลงแรงวานนี้ Yield ลดลง 11.13bps ปิดที่ 1.958%
          วานนี้มีรายการ Big Lot: CPALL-F มูลค่า 296 ล้านบาท และ JASIF-F 284 ล้านบาท
          ติดตามรายงานการประชุมเฟดในปลายเดือนเม.ย. เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ย
          ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ทำระดับปิดสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ US$48.31/barrel
          GDP ใน 1Q59 ของญี่ปุ่นขยายตัว 1.7% qoq ดีกว่าที่ตลาดคาด 0.3% qoq

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 4)
          หลัง SET INDEX กลับมาปิดยืนเหนือ 1,400 จุดได้อีกครั้ง เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,400-1,415 จุด นำโดยกลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน เช่นเดียวกับวานนี้ ด้วยแรงผลักดันจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ไต่ระดับใกล้ทดสอบ US$50/barrel และ Valuation ของกลุ่มธนาคารที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ แม้ว่าประเด็น NPLs ของกลุ่ม SME จะยังกดดันภาพรวมของกลุ่มธนาคารอยู่บ้าง แต่เริ่มจำกัดมากยิ่งขึ้นในความเห็นของเรา ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กจะเริ่มแกว่งในกรอบแคบ หรือเข้าสู่ช่วงพักฐาน หลังขยับขึ้นเด่นในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้า
          กลุ่ม ICT วันนี้ ติดตามท่าทีของ ADVANC ต่อการประมูลคลื่น 900MHz เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการตัดสินในร่วมประมูลหรือไม่ ก่อนที่จะเกิดการประมูลจริงในวันที่ 27 พ.ค. เรายังคงเชื่อว่า ADVANC จะเข้าร่วมในรอบนี้ และน่าจะเป็นเพียงผู้เดียวที่ประมูล
          สำหรับปัจจัยต่างประเทศ เราแนะนำติดตามรายงานการประชุมเฟดในเดือนเม.ย.ที่จะเปิดเผยในคืนนี้ เพื่อประเมินถึงโอกาสและช่วงเวลาที่เฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบปีนี้ 
          กลยุทธ์ในช่วงนี้ เรายังคงให้นักลงทุนเน้นการเก็งกำไรหุ้นรายตัว “Stock Selection” 

Stock Pick of The Day          
          1. เก็งกำไร PTTGC: ราคาปิด 61.25 บาท ราคาเหมาะสม 70 บาท
          a) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ทำระดับปิดสูงสุดในรอบ 7 เดือนวานนี้ ย่อมเป็นบวกต่อต้นทุนการผลิตปิโตรเคมีของ PTTGC ที่เป็นก๊าซ ซึ่งราคาจะทรงตัวกว่าราคาน้ำมันดิบ ทำให้ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีของ PTTGC มีแนวโน้มกว้างขึ้น
          b) ส่วนต่างราคาในสายโอเลฟินส์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ PTTGC พบว่า QTD ขยับขึ้น 15% qoq ส่วนของ Ethylene-Naphtha และ HDPE-naphtha +6% qoq สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q59 ของ PTTGC จะเติบโต qoq   
          c) หากพิจารณา Price Performance YTD กลุ่มปิโตรเคมี +25.03% นำโดย IVL +45.54% ขณะที่ PTTGC +22.50% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม           
          2. สะสม BEM: ราคาปิด 6.45 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
          a) เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน BEM ในช่วง 3 ไตรมาสข้างหน้า โดย 2Q59 คาดว่าจะเติบโต qoq จากผลของการ Refinance เงินกู้ได้เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก 
          b) ขณะที่ 3Q59 จะเริ่มรับรู้รายได้จากการบริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ส.ค. รวมถึงการเปิดให้บริการทางด่วนเส้นศรีรัช เฟสที่ 2 ในเดือนก.ย. และผลของการเปิดให้บริการทั้ง 2 ส่วนจะสะท้อนเต็มไตรมาสใน 4Q59  
          c) นอกจากนี้ประเด็นที่จะเป็น upside ต่อประมาณการของเรา และตลาดคือ การเจรจาผู้เดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่ต้องสรุปภายในสิ้นเดือนพ.ค.หรือต้นเดือนมิ.ย.เป็นอย่างช้า นอกเหนือไปจากการที่กทพ.จะเปิดการเจรจาต่อรองจ่ายเงินชดเชยให้ BEM ราว 8 พันล้านบาท จะเป็นตัวบวกด้านกระแสเงินสด

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิต่อเนื่อง อีก US$218 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 

Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไร้ทิศทาง
          นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 651 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 4,694 ล้านบาท ทั้งนี้ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ 11,408 ล้านบาทช่วง YTD
          ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 4,255 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 10,373 สัญญา น่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Short และกดดันให้ยอดสุทธิ QTD กลับมามีสถานะ Long สุทธิอีกครั้ง 570 สัญญา เมื่อ S50M16 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 0.37 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 0.68 จุด     
          และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ เป็นวันที่ 4 ลดลงเหลือ 2,285 ล้านบาท รวม 4 วันทำการขายสุทธิ 18,675 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 3 และลดลงแรง โดยพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 มากถึง 11.13bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.90bps ปิดที่ 1.958%  

Short-Selling วานนี้ 
ขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 823 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 774 ล้านบาท           

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 ยังคงเน้นกลุ่มค้าปลีก – พลังงาน และขาย ICT 
          การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิ 603 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 600 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 2,311 ล้านบาท โดยยังคงเน้นสะสมกลุ่มพลังงาน และค้าปลีก แต่ลดน้ำหนักกลุ่ม ICT ขณะที่กลุ่มธนาคาร เป็นการเลือกรายตัวเช่นเดียวกับวันก่อนหน้า

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
          2 ประธานเฟดคาดขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
          ประธานเฟดสาขา Atlanta นาย Lockhart ประเมินว่าเฟดน่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง หรืออาจ 3 ครั้ง ก็เป็นไปได้ ตลาดให้น้ำหนักกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ต่ำไป โดยเฉพาะในการประชุมเดือนมิ.ย.
          ประธานเฟดสาขา San Francisco นาย Williams ประเมินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ 2-3 ครั้ง อย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับนาย Lockhart ที่ส่งสัญญาณเฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ได้ ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและค่อนข้างสนับสนุน
          ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด
          อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. เท่ากับ 0.4% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.3% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 0.1% mom เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นเกือบ 10% mom แต่หากดูอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้นเท่ากับคาดที่ 0.2% mom
          ยอดก่อสร้างบ้าน เดือนเม.ย. เท่ากับ 1.172 ล้านหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 1.135 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.099 ล้านหลัง หรือเพิ่มขึ้น 6.6% mom โดยภาค Midwest เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ตามมาด้วยภาคใต้
          ยอดอนุมัติการก่อสร้าง เดือนเม.ย. เท่ากับ 1.116 ล้านหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 1.130 ล้านหลัง แต่ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 1.077 ล้านหลัง ทั้งนี้แนวโน้มตลาดบ้านในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าจะชะลอตัวลง จากผลของฤดูกาล
          ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.7% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.2% mom และฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.9% mom ผลผลิตในส่วนของยานพาหนะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 1.3% mom

ยุโรป
          อัตราเงินเฟ้ออังกฤษกลับหดตัว: อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. เท่ากับ 0.3% mom ชะลอตัวจากเดือนมี.ค.ที่ 0.5% mom เนื่องจากค่าเดินทางอากาศ และเสื้อผ้าที่ลดลง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อจะยังไม่ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ 2.0% จนกว่าจะช่วงกลางปี 2561   

จีน          
          จีนเตรียมออกหลักเกณฑ์การหยุดการซื้อขาย “Trading Halts”: ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และ เซินเจิน เตรียมออกหลักเกณฑ์ในการหยุดการซื้อขายในช่วงต้นสัปดาห์หน้า เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์สากล และเป็นไปตามมาตรฐานสากล อย่าง MSCI Index ทั้งนี้หลักเกณฑ์ที่จะออก เพื่อเป็นการควบคุมการทำ Arbitrage trading halt จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นจีน หรือ A-Shares และจำกัดช่วงเวลาการหยุดซื้อขาย 

เอเชียแปซิฟิก
          การส่งออกสิงคโปร์หดตัวต่อเนื่อง: การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช้น้ำมันหดตัว 7.9% yoy ในเดือนเม.ย. ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด และชะลอตัวจากเดือนมี.ค.ที่หดตัวลงแรง 15.7% yoy แต่หากพิจารณา mom การส่งออกดังกล่าวฟื้นตัว 4.5% mom ดีกว่าที่ตลาด 4.0% mom โดยแรงกดดันยังคงอยู่ที่ตลาดส่งออกในจีน และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการค้าระหว่างประเทศในอาเซียน
          เศรษฐกิจ 1Q59 ของญี่ปุ่น ออกมาดีกว่าคาด: เติบโต 1.7% qoq ดีกว่าที่ Bloomberg consensus คาดที่ 0.3% qoq 

ไทย
          ไม่มี

          Strategist Team Maybank KimEng          
          Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
          Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
          Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530
 

 โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 18 พ.ค. 2559



 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 พ.ค. 2559 เวลา : 10:56:33

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:35 am